จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ด้าน แสตมป์ อภิวัชร์ ได้ยอมรับทุกอย่างในรายการโหนกระแส คิดไม่ดีกับภรรยา เพราะเป็นช่วงที่หลงในความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ แจม ดังจะเห็นได้จากข้อความแชตที่มีเพื่อนของตนนำมาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเขาได้อ้างกับภรรยาว่า แจม เข้ามาช่วยงานในฐานะสไตล์ลิสเพื่อใช้เวลาร่วมกัน และก็อยากให้ แจม ยอมรับด้วยว่าเคยมีสัมพันธ์พิเศษกันจริง

แสตมป์ ยังเผยถึงผลกระทบจากกระแสข่าวดราม่าในครั้งนี้ว่า มันอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของตน แต่ตนก็พร้อมทำใจยอมรับหากเส้นทางศิลปินต้องจบลงตรงนี้ ตอนนี้ตารางงานแสดงคอนเสิร์ตที่เคยลงไว้ถูกผู้ว่าจ้างและลูกค้ายกเลิกทั้งหมดแล้ว

นอกจากบทบาทศิลปินชื่อดัง แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ยังแสดงฝีมือในฐานะนักธุรกิจ ด้วยการดำเนินงานบริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด ซึ่งมุ่งเน้นด้านธุรกิจเพลงโดยเฉพาะ

ธุรกิจเพลงในมือ แสตมป์

บริษัท เอช พี เอ็ม พี จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์เพลง การผลิตดนตรีประกอบสื่อโฆษณา และการให้คำปรึกษาในด้านการร้องเพลงและการแสดง

ข้อมูล ณ ปี 2566 ระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมกว่า 22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงถึง 8.2 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารธุรกิจเพลงอย่างชัดเจน

ผลประกอบการ 5 ปีล่าสุด

บริษัทนี้ยังคงรักษาผลกำไรต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2566 ที่ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ประสบความสำเร็จ

- ปี 2566: รายได้รวม 22.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8.2 ล้านบาท

- ปี 2565: กำไรสุทธิ 6.8 ล้านบาท

- ปี 2564: ขาดทุน 1.6 ล้านบาท (ผลกระทบจากโควิด-19)

- ปี 2563: กำไรสุทธิ 7.6 ล้านบาท

- ปี 2562: กำไรสุทธิ 9.8 ล้านบาท

โครงสร้างการบริหาร บริษัทมีกรรมการ 2 คน คือ นางสาวจีริสุดา ศรีวัฒน์ (นิว ภรรยาแสตมป์) และ นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข โดย นิว ถือหุ้นใหญ่ 99% ส่วน แสตมป์ ถือหุ้น 1%