ด่วนพบพิรุธ ผกก.เบิ้ม เสียชีวิตมีเงื่อนงำ
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รายงานข้อมูลการตรวจที่เกิดเหตุ และการชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.กก.2 บก.ทล. หรือผกก.เบิ้ม ที่ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านคูคต จ.ปทุมธานี ก่อนนำร่างส่งแผนกนิติเวชศาสตร์ รพ.ภูมิพล เพื่อตรวจพิสูจน์
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบรอยกระสุนเข้าบริเวณขมับด้านขวาของศีรษะ ทะลุออกขมับด้านซ้าย พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมแม็กกาซีนบรรจุในรังเพลิง ตกอยู่ด้านขวาห่างจากศีรษะประมาณ 1 ฟุต มือขวาตั้งค้างอยู่ข้างลำตัว
สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะหยิบอาวุธปืนออกมาจากตู้ด้านซ้าย (ตรงกลางด้านบนมีจอทีวีขนาดใหญ่) จากนั้นใช้อาวุธปืนก่อเหตุสลดขึ้น ขณะชันสูตรสภาพศพแข็งตั้งแต่ช่วงลำตัวจนสุดด้านล่าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วระหว่าง 8-12 ชม.
ล่าสุดกรณี ผกก.เบิ้ม เสียชีวิตมีเงื่อนงำ พบพิรุธหลายจุด โดยถ้าดูจากกล้องวงจรปิดมีพฤติกรรมที่แปลกเพราะท่านนั่งเเท็กซี่มา หลังจากไปร่วมงานสังสรรค์กับเพื่อน เเต่ไม่กินเหล้า ไม่กินข้าวไม่กินอะไรเลย จากนั้นนัดให้ลูกน้องนัดมารับที่อิมแพ็ค 9 โมงเช้า เเต่ตี 3 ตี 4 นั่งเเท็กซี่มา เเล้วปีนเข้าประตูบ้านตัวเอง
จากการชันสูตรเบื้องต้น พบว่าสภาพศพเเข็งตั้งเเต่ช่วงลำตัว จนสุดด้านล่าง แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมา 8-12 ชั่วโมง จากการชันสูตรเบื้องต้น กระสุนเข้าที่ศรีษะขมับขวา1รู ทะลุขมับด้านซ้าย ปืน 9 มม.ปืนมีทะเบียน ตกจากด้านขวาห่างจากศรีษะประมาณ 1 ฟุต มือขวาตั้งค้างอยู่ข้างลำตัว พิสูจน์หลักฐานเเละเเพทย์ชันสูตรที่เข้าไปถึง 15.00 น. สภาพศพเข็งเเล้ว สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมา 8-12 ชั่วโมง
โดยมีเรื่องที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมคือยังไม่เจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งถ้าแพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมา 8-12 ชั่วโมง พิสูจน์หลักฐานเข้าไปพบศพตอนบ่าย 3 นับไป 8-12 ชั่วโมง แปลว่าช่วงที่ผู้กำกับเบิ้ม ก่อเหตุน่าจะอยู่ประมาณ 6-7 โมง หรืออย่างช้าที่สุด 8 โมงเช้า เเต่ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน เเละเเชทที่ส่งไปลาเพื่อนจะฆ่าตัวตาย คือเวลา 10 โมง และโทรศัพท์ผกก.เบิ้ม ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตี 4 กว่า ท่านนั่งแท็กซี่เข้ามา ท่านอยู่บ้านคนเดียว ซึ่งศพอยู่ที่ลำลูกกา คลอง 2 ปทุมธานี เเต่สัญญาณโทรศัพท์มือถือไปโผล่อยู่ที่บางนา ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอตำรวจตรวจสอบว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆ่าตัดตอน ทำไมถึงคำพูดแบบนี้ออกมาจาก ผบ.ตร. ยังคงต้องติดตามคดีกันต่อไป หากมีความคืบหน้าจะรายงานอีกครั้ง