ส่องประวัติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร มือปราบขุนดง ที่กำลังฮือฮาในโซเชียล

ส่องประวัติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร มือปราบขุนดง ที่กำลังฮือฮาในโซเชียล

เรียกได้ว่า ช่วงนี้ใครๆก็อยากรู้จัก ท่านเรวัช หรือ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด หลังจากไปออกรายการ โหนกระแส และได้กล่าวให้กำลังใจ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ไอ้พวกนี้มันขี้ตีนเรา มันจะเป็นเจ้าพ่อได้ไง ทำให้เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเซียลอย่างมาก

เปิดประวัติ ท่านเรวัช คือใคร

เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นชาวอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทายาทเจ้าของโรงสี แต่ระหว่างที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งคุณตาถูกกลุ่มโจรบุกปล้นและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ พล.ต.ท.เรวัช ในตอนนั้น ต้องกลายเป็นพยานปากเอก ติดตามตำรวจไปชี้ตัวทุกครั้งที่มีการล่าคนร้าย สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนร้ายเป็นอย่างมาก ทำให้ พล.ต.ท.เรชัช โดนดักทำร้าย จึงต้องพกปืน .38 ติดตัวและอยู่ในความดูแลของตำรวจ

ช่วงวัยรุ่นของ พล.ต.ท.เรวัช ก่อคดีมากมาย ทั้งแทงคนตาย โดนไล่ยิง แต่ก็สามารถสอบเป็นเสมียนที่จังหวัดชัยนาม ก่อนจะขยับเป็นปลัด ทำหน้าที่ติดตามดูแลนายอำเภอ ช่วงผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อาละวาดหนัก ชีวิตพลิกผันกลายเป็น มือปืนในเครื่องแบบฝ่ายปกครอง ก่อนจะตัดสินใจสมัครเป็นตำรวจ เพราะชอบเป็นการส่วนตัว

พล.ต.ท.เรวัช เรียนปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และจบปริญญาโทอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ติดยศ ร.ต.อ. และขอย้ายไปประจำที่โรงพักชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งในขณะนั้นถือเป็น ดงโจร มีทั้งโจรเรียกค่าไถ่ และปล้น

มือปราบขุนดง

ท่านเรวัช ถูกตั้งเป็นหัวหน้าชุดขุนดง ซึ่งเป็นชื่อเรียกของหน่วยที่ดังในเวลาต่อมา หลังจากที่เขาไปยิงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รายหนึ่ง จนทำให้ตัวเองถูกสั่งย้าย และถูกสั่งห้ามเข้าพื้นที่จังหวัดลพบุรีกับสระบุรี

พอเกิดเหตุสะเทือนขวัญฆาตกรรม ศยามล พล.ต.ท.เรวัช คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐาน เก็บดีเอ็นเอจากน้ำอสุจิ ซึ่งสมัยนั้นไม่มีใครทำ ซึ่งผลการตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือตรงกับ ส.ต.อ.แผ่ว ภูเต็ง ถึง 13 จุด ตำรวจจึงใช้เป็นหลักฐานจับกุมผู้ต้องหา และต่อมา พล.ต.ท.เรวัช ก็สามารถสืบสวนจนแกะรอยจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด รวมถึงหมอบัณฑิต ผู้จ้างวาน

ยังมีผลงานและวีรกรรมมากมาย ปะทะกับเจ้าพ่อ มือปืน และผู้มีอิทธิพลมานับไม่ถ้วน ก่อนจะได้ติดยศ นายพล ขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี แล้วย้ายไปเป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานจเรตำรวจ และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามาเสพติด ในปี พ.ศ.2559

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ