เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา บริตนีย์ สเปียร์ (Britney Spears)นักร้องดังที่เคยได้ฉายา ราชินีเพลงป๊อป และ แซม แอสการี ( Sam Asghari) นักแสดงและเทรนเนอร์ ที่มีประเด็นหย่าร้างกันก่อนหน้านี้ ซึ่ง เเซมระบุลงในเอกสารการหย่าว่า บริทนีย์ ชอบแนว physically abused เหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาเกิดขึ้นเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แซมถูกถ่ายภาพมีขอบตาดำและรอยกัดที่แขนของเขา รอยดังกล่าวเเซมอ้างว่าเกิดจากการที่บริตนีย์มักจะใช้ฟันกัดไปที่ร่างกายของตัวเองขณะนอนหลับ เเละอีกหนึ่งเรื่องคือเเซมบอกในเอกสารการหย่าว่า บริตนีย์ มักจะวางมีดไว้ทั่วทุกมุมของบ้านทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย

ล่าสุด ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานว่า ด้านชื่อเสียงฐานะของ บริตนีย์ สเปียร์สที่ เหนือกว่า สามีหนุ่มทุกอย่าง อีกทั้งยังมีข่าวด้วยว่าในหมายฟ้องหย่า แอสการีพยายามหาทางเรียกค่าเลี้ยงดู และค่าจ้างทนายจากฝ่ายภรรยานักร้องดัง ที่มีทรัพย์สินอยู่ราว 60 ล้านดอลลาร์ ราว 2,100 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็หาทางป้องกัน มิให้สเปียร์สเรียกร้องค่าเลี้ยงดูใดๆจากตน

แอสการี จะได้เงินจากภรรยาคนดัง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย ด้วยทั้งคู่มี ‘สัญญาก่อนสมรส’ เป็นเกราะป้องกันทรัพย์สินของสเปียร์ส ในสัญญาก่อนสมรสระบุว่า แอสการีจะได้รับเงิน 1,000,000 ดอลลาร์ หรือราว 35 ล้านบาททุก 2 ปีที่ใช้ชีวิตคู่สามีภรรยาด้วยกัน และจะได้รับเงิน 10 ล้านดอลลาร์ ราว 350 ล้านบาทเมื่อใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเกิน 15 ปี แต่แอสการีไม่มีชื่อในกรรมสิทธิ์บ้านที่อยู่ด้วยกัน รวมถึงไม่มีสิทธิที่จะอ้างรับส่วนแบ่งในลิขสิทธิ์เพลงของภรรยานักร้องดังแต่อย่างใด

หลังจากมีข่าวฟ้องหย่า ชีวิตคู่ของนักร้องดังกับสามีเทรนเนอร์ถูกสื่อขุดคุ้ยแทบทุกวัน สื่อต่างอ้างแหล่งข่าววงในให้ข้อมูลเชิงลึกและข่าววงในเล่าว่า แอสการีเคยบอกกับเพื่อนๆว่า เขาถูกภรรยานักร้องดังทำร้ายตลอด 7 ปีที่อยู่ด้วยกัน และมีครั้งหนึ่งที่ถูกแอบทำร้ายระหว่างนอนหลับ พอตื่นขึ้นมาแอสการีพบว่าตาข้างหนึ่งช้ำจนเป็นสีดำ ขณะที่ผ่านมามีข่าวว่าทั้งสองทะเลาะกันบ่อย และมีหลายครั้งที่การ์ด รักษาความปลอดภัยในบ้านต้องเข้ามาห้ามนั่นเอง

เรียบเรียง news.in.th