จนท.ควบคุมตัว ทักษิณ ถึงศาลฎีกาแล้ว เจอ 3 คดีต้องรับโทษ
จากกรณี เวลา 08.58 น. เครื่องบินส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แลนดิ้งสู่ประเทศไทยแล้ว ที่สนามบินดอนเมืองบริเวณอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล ขณะที่เดินออกมา ได้โบกทักทายคนที่ไปรอรับ พร้อมถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง-พระราชินี
นายทักษิณ ได้เดินออกจากประตูมาพร้อมกับอุ๊งอิ๊ง โดยได้เข้าทำการก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.10 ก่อนโบกมือทักแกนนำเพื่อไทย และมวลชนเสื้อแดงที่มาร้อนต้อนรับ ซึ่งได้ตะโกนเรียกชื่อทักษิณิ
ต่อมาเวลา 10.25 น. ขบวนรถเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายทักษิณ มาถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำเรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สนามหลวง ท่ามกลางประชาชนและคนเสื้อแดงเดินทางมารอต้อนรับหน้าศาล
สำหรับคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร ต้องรับโทษตอนนี้มีทั้งสิ้น 3 คดี
1.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงค์ ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เม.ย. 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 ปี
2.คดีหวยบนดิน ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิ.ย. 2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่ได้ขอให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงค์
3.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อ 30 ก.ค.2563 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 5 ปี และให้นับโทษต่อจากคดี เอ็กซิมแบ็งค์ (คดีที่ 1) และหวยบนดิน (คดีที่ 2) เนื่องจากคดีหวยบนดิน ไม่ได้มีการให้นับโทษต่อจากคดีเอ็กซิมแบงค์
คดีเอ็กซิมแบงค์กับคดีหวย บนดินจึงจะนับโทษซ้อนกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 ที่บัญญัติให้โทษจำคุกเริ่มตั้งแต่วันมีคำพิพากษา
ซึ่งวันที่นายทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยวันนี้ ศาลจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือหมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุกในคดีเอ็กซิมแบงค์และหวยบนดิน ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2566 เป็นต้นไป พร้อมกันทั้ง 2 คดีเลย
ส่วนคดีชินคอร์ป ศาลฎีกาจะออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด หรือ หมายแดง ให้เริ่มนับโทษจำคุก หลังจากที่รับโทษในคดีเอ็กซิมแบงค์และคดีหวยบนดินเสร็จสิ้นแล้ว
รวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี ( 3 ปี (คดีที่ 1= 3 ปี , คดีที่ 2 = 2 ปี นับโทษซ้อนกัน ) +5 ปี)
โดยคดีที่ 1 กับ 2 นับโทษซ้อนกัน