จากสำนักข่างต่างประเทศได้ รายงายว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดร. เลอ วาน เทียว แพทย์แผนกโรคติดเชื้อทั่วไป โรงพยาบาลแห่งชาติสำหรับโรคเขตร้อน (ฮานอย) กล่าวว่า แพทย์เพิ่งได้รับเคสหายาก หลังผู้ป่วยหญิงวัย 19 ปีเดินทางมาพบแพทย์ในขาซ้ายของผู้ป่วยแดง ปลายนิ้วหัวแม่เท้าเป็นหนอง และมีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส

มีผู้ป่วยหญิงเผยว่า เธอบังเอิญเห็นขนคุดบนนิ้วหัวแม่เท้าของตัวเอง ทนไม่ไหวเลยอยากดึงขนออก หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ขาของเธอก็มีอาการอักเสบและบวม หลังจากผ่านไปหนึ่งวันอาการแย่ลง ทางด้านแพทย์เผยสาเหตุของการบวมและอักเสบครั้งนี้ว่า การกำจัดขนเพราะสร้างเส้นทางให้แบคทีเรียโดยเฉพาะเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) เข้าสู่ผิวหนัง

แพทย์กล่าวว่าการติดเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสเป็นการติดเชื้อชนิดหนึ่งที่เกิดจากแบคทีเรีย ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในมนุษย์ได้ โดยมักแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับละออง การจาม หรือการสัมผัสกับสิ่งของส่วนตัวของผู้ติดเชื้อบนผิวหนัง ทั้งยังสามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลเปิดเล็ก ๆ เมื่อผู้ป่วยถอนขน จะสร้างความเสียหายต่อผิวหนังและแบคทีเรีย

นอกจากนี้ แพทย์ยังเผยว่า เปรียบเทียบการกำจัดขนกับการทำลายชั้นป้องกันตามธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้นแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส จะบุกรุกและทำให้เกิดเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบที่เท้าซ้ายทั้งหมดของผู้ป่วย เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แพทย์ได้สั่งยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อคาดว่าระยะเวลาการรักษาอาจอยู่ได้ตั้งแต่ 1 ถึง 2 สัปดาห์

เรียบเรียง news.in.th