จากกรณีต่ายได้ไปออกรายการ นิกกี้ ซึ่งเป็นพิธีกร ได้ถามต่ายกลางรายการว่า มีผู้ชายคุกเขาขอพี่เเต่งงานเเล้ว ปีที่เเล้วมีผู้ชายคุกเข่าขอเเต่งงานเเล้ว เราไม่ได้เซเยสตอนนั้นเราบอกให้ดูๆกันไปก่อนคบกันมาหลายปีเเล้ว ตอนนั้นบอกขอดูก่อน ถ้าคนขอแต่งงานก็คือตกลงไปเลยค่ะทุกคน

ที่ตอนนั้นไม่ตกลงเพราะไม่แน่ใจ อยากขอโทษเขา รู้สึกว่าครั้งที่สองมันต้องชัวร์ แค่นั้นเอง เป็นคนนอกวงการ โตกว่าทุกวันนี้เขายังอยู่ในชีวิตเรานะ เราอยากขอโทษที่ตอนนั้นงอเเงอะไรเเบบนี้ จะร้องไห้นะ ต้องเเต่งหน้าใหม่นะ

ถามว่ามีโอกาสกลับมาเป็นครอบครัวสีส้มไหม ต่ายบอกว่า “มันก็เป็นครอบครัวกันอยู่แล้ว มันต้องเป็นครอบครัวตลอดไปอยู่แล้ว เพราะยังไงเราต้องเจอกันไปจนพิพิมเรียนจบ งานแต่งงานพิพิม เราก็ต้องไปเป็นประธานกัน มันต้องเจอกันตลอด เป็นพ่อแม่ของลูก” หลังจากนั้นมีอีกช่วงที่นิกกี้ถามว่าทุกวันนี้ความรักเป็นยังไงบ้าง ต่ายบอกว่าก็ โอเค

ต่าย ชุติมา

ซึ่ง นิกกี้ ยังได้ขอถามถึง ทิม พิธา เป็นแฟนที่รักที่สุดเลยไหม ต่าย สตั๊นไปครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ก็ต้องเป็นแบบนั้น รักและผูกพันที่สุด เพราะ 10 ปี ตอนที่เราตัดสินใจเลิกกันเราก็ยังรักเขาอยู่”

ถามว่าเป็นคนตัดสินใจเอง ต่าย ตอบว่า “ใช่ๆ แต่เราพูดเองก็เสียใจ แต่เลือกแล้ว ก็ใช้เวลาทำใจอยู่ 3 ปี เพราะความรักอย่างเดียวไม่พอ (ทำไมถึงเลิกกันตอนนั้น) การยอมเป็นข้อเสียนะ ตามใจ ได้หมด อะไรก็ได้ ดูเหมือนเป็นข้อดีนะแต่เป็นข้อเสียของเรา ยอมไปเรื่อยๆ แล้วอีกคนเขาจะคิดว่าทำได้ เอาอีกๆ จนพอเราทนไม่ได้ เราก็จะไปเลย”

ถามว่าหากย้อนเวลากลับได้จะเลิกไหม ต่าย ตอบว่า “ก็คงต้องลองถอยกันก่อน แต่คงยังไม่เลิก ตอนนั้นมันเหมือนระเบิด ความอดทนมันหมดด้วยมั้ง (เสียดายไหม) โอ้ย มาถึงวันนี้ก็ไม่แล้วมั้ง ก็ภูมิใจในตัวเค้า ภูมิใจแทนพิพิมแล้วกัน

เมื่อถามอีกว่ายังรักอยู่ไหม ต่าย ตอบว่า “ก็เป็นห่วงแหละ เป็นห่วงตลอด ถามว่าห่วงเรื่องอะไร ก็ทุกเรื่อง เรื่องสุขภาพ แต่อีกเดี๋ยวพิพิมโตก็คงดูแลเขาได้ (ได้บอกเขาไหมว่าพี่เป็นห่วง) ไม่ได้บอก” นิกกี้ ยังถามอีกว่าเขินไหม ต่าย ทำหน้าเขินตอบว่า ไม่รู้ นิกกี้ ก็ปลอบว่า ผมเข้าใจพี่ คนเป็นแฟนกันเนอะ

เรียบเรียงโดย news.in.th