หนุ่มวัย 19 นั่งกินข้าวอยู่ในห้างดีๆ สุดท้ายต้องเจ็บตัวเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่เกิดขึ้นในห้างเมื่อได้ไปนั่งทานข้าว แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทำเอาต้องเจ็บตัวเลยงานนี้
ภาพจาก ออยศรีและผองเผือก
ภาพจาก ออยศรีและผองเผือก
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีเพจ ออยศรีและผองเผือก ออกมาโพสต์ ผ่าน facebook พร้อมกับระบุข้อความว่า หนูในชั้นศูนย์อาหาร ในห้างใหญ่กลางกรุง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2/5/66 ผู้เสียหายได้ใช้บริการห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยเข้าไปรับประทานอาหารในห้างดัง ใช่ค่ะ ห้าง ไม่ใช่ ตลาด
ว่ากันด้วยเรื่องความสะอาดในห้าง เชื่อว่าห้างทุกห้างไม่ว่าจะเป็นห้างเล็ก หรือห้างใหญ่ คงจะมีมาตราฐานกฏระเบียบเรื่องความสะอาดไม่ต่างกัน ตามคำบอกเล่าของผู้เสียหาย ลูกชาย วัย 19 โดนหนูที่วิ่งออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่งในชั้นที่เป็นศูนย์อาหารกัดที่เท้า มีการทำความสะอาดแผลเบื้องต้นในห้างสรรพสินค้า (มีเอกสารยืนยัน) ไม่มีการนำส่งโรงพยาบาล ต้องเดินทางเอง นอกจากการทำแผล การรับวัคซีนต่างๆก็น่าจะมีความสำคัญ มีทั้งการพูดจาที่ดี และไม่ดีต่อผู้เสียหาย แต่ก็มีการขอโทษ
เป็นลักษณะแบบหนูบ้าน ซึ่งไม่มีใครทราบว่าความสกปรกจะส่งผลอะไรตามมาต่อสุขภาพร่างกายของน้องหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่เชื้อโรคพร้อมจะขยายกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆตอนนี้
ภาพจาก ออยศรีและผองเผือก
ทางห้างให้ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย
เนื่องด้วยน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ และคุณแม่อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกที่จะเข้าไปบ่อยนัก การตกลงเรื่องค่าเสียหายก็ไม่ลงตัว ด้วยห้างไม่สามารถระบุกำหนดเวลาที่ชัดเจนให้
มีการแจ้งความและขอกล้องวงจรปิดไป ซึ่งร้อยเวรแจ้งว่าได้รับภาพวงจรปิดมาเพียง 1 มุมเท่านั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นในสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือความสะอาด เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าหมูที่มาทำอาหารให้เรา ไก่ที่เรากำลังเคี้ยว จะไม่ผ่านการกัดแทะจากหนูตัวไหน หรือ หนูตัวไหนวิ่งย่ำไปมา บนอาหารของเรามาก่อน และมีหนูแค่ตัวเดียวนี้หรือไม่ หากห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารใดก็แล้วแต่มีโอกาสได้เห็นข้อความนี้ ออยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะปลุกให้ทุกที่ใส่ใจความสะอาดของปากท้องผู้บริโภค เพื่อประโยชน์ทั้งของลูกค้าและทางร้านอาหารเองด้วย ขอบคุณค่ะ
ภาพจาก ออยศรีและผองเผือก
ภาพจาก ออยศรีและผองเผือก
เรียบเรียง news in thailand