เฮลั่น เปิดผลตรวจ น้ำบาดาลโซดา
จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เจาะบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำบาดาลมาใช้ทางการเกษตรแต่กลับพบว่าน้ำบาดาลที่เจาะขึ้นมาได้นั้นมีรสชาติติดลิ้นซ่าคล้ายโซดา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ก็ได้เข้าไปพิสูจน์ตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายสุดใจ วงชารี ผู้อำนวยการกองมาตรฐานคุณภาพน้ำบาดาล ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า จากผลการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาลโซดาที่สุโขทัยไปวิเคราะห์ โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 7 กำแพงเพชร พบว่าแหล่งกำเนิดน้ำแร่ที่สุโขทัย มีปริมาณไบคาร์บอเนตและแคลเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง ใกล้เคียงกับน้ำแร่ที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส
นายสุดใจ กล่าวต่อว่า แต่ทว่าต้องมีการกรองก่อนที่จะนำไปดื่มบริโภค เนื่องจากในน้ำบาดาลโซดาแหล่งนี้ มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ค่า pH 6.2 ความกระด้าง 530 ppm. แต่ค่าปกติจะอยู่ที่ 300 ppm. และสูงไม่เกิน 500 ppm. อีกทั้งยังมีแร่แมงกานีส 0.6 ppm. ซึ่งทั่วไปจะอยู่ที่ไม่เกิน 0.3 ppm. ฉะนั้นถ้าจะนำไปดื่มบริโภค จะต้องกรองแร่แมงกานีสออกเสียก่อน ให้ค่าเป็น 0 หรือไม่เกิน 0.3 ppm. เพื่อความปลอดภัย
นายสุดใจ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ แหล่งนํ้าบาดาลโซดาส่วนใหญ่มาจากหินปูน ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เดินทางขึ้นมาตามรอยแยกของชั้นดิน และรวมตัวกับนํ้าบาดาลในชั้นหินกักเก็บนํ้าบาดาลด้านบน โดยมีชั้นหินปกคลุมปิดทับอยู่ ส่งผลให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่สามารถซึมผ่านออกชั้นบรรยากาศได้
นํ้าบาดาลโซดามีคุณสมบัติค่อนข้างเป็นกรด มีไบคาร์บอเนตในนํ้าค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลทําให้เกิดฟอง และให้รสชาติที่สดชื่น และในนํ้าก็อาจมีองค์ประกอบบางตัวที่มากเกินไป จึงต้องอาศัยกระบวนการตกตะกอน หรือการกรอง โดยต้องไม่ทําให้สารประกอบที่สําคัญในนํ้าแร่ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปด้วย นายสุดใจ กล่าว
นายสุดใจ กล่าวด้วยว่า สำหรับน้ำบาดาลโซดา น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟองจากสุโขทัย คือ มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง น้ำแร่นี้ได้รับการกรองผ่านชั้นหินจํานวนมาก และได้รับการปกป้องจากสภาพแวดล้อมภายนอก ให้ความสะอาดสดชื่น แต่ทว่าก่อนนำมาดื่มบริโภค จะต้องกรองแร่แมงกานีสออกก่อนเพื่อความปลอดภัย