กรณีรถกระบะแคป สีขาว ทะเบียน บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นรถหมอพราหมณ์ พาคณะจะไปทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เกิดไปเฉี่ยวกับรถกระบะ 4 ประตู สีบรินเงิน ทะเบียน ขอนแก่น บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 131-132 ถนนโชคชัยเดชอุดม เขต ต.อิสาณเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รถทั้งสองคันเสียหลักตกลงข้างทางแล้วไปชนต้นไม้ รถคณะหมอพราหมณ์ มาด้วยกัน 6 คนเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนรถอีกคันเป็นรถของ สิบเอก พีระพงษ์ อายุ 29 ปี สังกัดค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ขับมาคนเดียวได้รับบาดเจ็บปากแตก

ต่อมา พ.ต.ต.อภิชา เตียงประโคน สารวัตร(สอบสวน)สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ทำการตรวจสอบรถทั้งสองคัน ไม่พบความผิดปกติ กระทั่งชุดสืบสวนไปพบกล่องบุหรี่หลายกล่อง ถูกนำไปวางไว้ที่ป่าข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตรจึงยึดไว้ตรวจสอบพบเป็นบุหรี่ยี่ห้อซิกกาเรตต่างประเทศยี่ห้อ Texas(เขียว)จำนวน 150 แท่ง (จำนวน 1,500 ซอง) ,บุหรี่ซิกกาเรตต่างประเทศยี่ห้อ Texas(แดง)จำนวน 110 แท่ง (จำนวน 1,100ซอง) รวมของกลางทั้งหมด 260 แท่ง (จำนวน 2,600 ซอง)

สอบถามสิบเอกพีรพงษ์ ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่บุหรี่ของตนเอง กระทั่งนำกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบลายนิ้วมือ พบว่าลายนิ้วมือที่ติดอยู่บนกล่องบุหรี่ ตรงกับลายนิ้วมือของสิบเอกพีรพงษ์

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ตั้งของหาสิบเอก พีรพงษ์ 3 ข้อหา 1.ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต 2,มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี 3.ข้อหามีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้ามิได้เสียภาษี

นายวัลลภ อุทุมพันธ์ สรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุหรี่ที่ไม่ผ่านการเสียภาษี ตามข้อกฎหมายแล้ว ผู้ที่มีไว้ครอบครองตามของกลางที่พบ 2,600 ซอง จะมีโทษปรับประมาณ 1,600,000 บาท และถ้ามีไว้เพื่อจำหน่ายจะมีโทษปรับประมาณ 2,400,000 บาท แต่ถ้าผู้ถูกกล่าวไม่รับสารภาพ ก็จะส่งพนักงานสอบสวนเพื่อฟ้องศาลต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ สั่งการให้พนักงานสอบสวน ทำงานอย่างตรงไปตรงมาโดยยึดเอาพยานหลักฐานเป็นสำคัญ ส่วนผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้ หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล