จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด แถลงข่าวยอมรับว่าได้มีการเรียกรับเงินจำนวน 300,000 บาท จากลูกความของตนเอง ซึ่งจัดให้แถลงข่าว เพื่อผลประโยชน์ในทางคดี และเหตุที่ได้เรียกเอาเงินจำนวนสูงนั้น เพราะถือเป็นค่าเสี่ยงภัยที่อาจถูกคู่ความฝ่ายตรงข้ามฟ้องดำเนินคดีกับตนเองได้นั้น

ล่าสุด ทนายอั๋น เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกสภาทนายความเพื่อให้พิจารณาว่า พฤติกรรมของทนายตั้มที่เรียกค่าแถลงข่าว 3 แสนบาท จากลูกความโดยอ้างว่าเป็นค่าเสี่ยงภัย เข้าข่ายกระทำผิดมรรยาททนายความหรือไม่

ท้ังนี้ นายอั๋น กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทนายตั้มระบุว่า เตรียมจะฟ้องประเด็นสลิป 5 แสนนั้น ถ้าทนายตั้มฟ้องมา ตนก็จะฟ้องกลับ ยืนยันว่ามี FC ลุงพลที่อยู่ต่างประเทศแจ้งว่าโอนเงินเป็นค่าทนายความไปที่บัญชีมูลนิธิทนายเพื่อประชาชนจริง

พร้อมส่งหลักฐานสลิปโอนเงินมาให้ตนดู โดยเป็นสลิป 200 บาท, 500 บาท 1,000 บาท, 5,000 บาท (2ครั้ง), 6,000 บาท เป็นต้น ซึ่งหลักฐานดังกล่าวเพียงพอให้เชื่อได้ว่า มีการโอนเงินค่าทนายความให้กับทนายตั้มจริง ซึ่งแย้งกับคำพูดของทนายตั้มที่ว่า ไม่ได้เงินค่าทนายความคดีลุงพลเลยสักบาท

นายอั๋น กล่าวต่อว่า วันอังคารที่ 4 เม.ย.นี้ จะขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม โดยจะตรวจสอบการจัดตั้งมูลนิธิกับกระทรวงมหาดไทย รวมถึงข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้มมีรายได้แสนกว่าบาทเมื่อปีที่ผ่านมา

แต่ขณะที่ทนายตั้มสามารถใช้ชีวิตหรูหรา มีการเปิดเผยข้อมูลจากชาวเน็ตว่ามีการซื้อบ้าน 55-120 ล้านบาท ซึ่งการใช้ชีวิตหรูหราดังกล่าว แย้งกับข้อมูลรายได้ของบริษัทที่ปรากฏบนเว็บไซต์ DBD ของกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่าแต่ละปีรายได้แสนกว่าบาท โดยหลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว จะยื่นต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เพื่อให้ตรวจสอบทางการเงินของทนายตั้ม