ตร.รวบพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังขโมยเนื้อหมูจากตะกร้าแม่ค้า ขณะกำลังทอดของกลางคากระทะ

ตร.รวบพ่อเลี้ยงเดี่ยว หลังขโมยเนื้อหมูจากตะกร้าแม่ค้า ขณะกำลังทอดของกลางคากระทะ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา น.ส.มณีรัตน์ อายุ 43 ปี ชาวอุดรธานี แจ้งว่าถูกคนร้ายขโมยเนื้อหมู 8 กิโลกรัมที่วางเอาไว้รถจักรยานยนต์ก่อนเข้าไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี

น.ส.มณีรัตน์เล่าว่า เป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ซอยหนองบัว 1 ช่วงเช้าไปซื้อเนื้อหมูที่ตลาดไทอีสาณ และได้นำเนื้อหมู กระดูกหมู และเครื่องในรวม 8 กิโลกรัม มูลค่า 1,000 บาท วางไว้ที่รถจักรยานยนต์แล้วขี่รถมาที่ห้างสรรพสินค้า จอดที่ลานจอดรถหน้าห้าง จากนั้นตนได้เดินเข้าไปซื้อของประมาณ 30 นาที กลับออกมาที่รถจักรยานยนต์ไม่พบถุงเนื้อหมู เดินหารอบๆ บริเวณลานจอดรถก็ไม่พบ จึงมั่นใจว่าถูกขโมย ก่อนเข้ามาแจ้งความ

อยากฝากถึงคนร้ายว่าให้เอามาคืน เพราะช่วงนี้ก็หากินลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี กว่าจะขายของได้ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ซึ่งรถที่จอดห่างไปอีก 3 คันก็ถูกคนร้ายขโมยหมูปิ้งและข้าวเหนียว มูลค่า 100 บาทที่จะซื้อไปให้ลูกกินถูกขโมยไปด้วย แต่เจ้าของเห็นว่าเล็กน้อยจึงไม่มาแจ้งความ

โดยทางตำรวจชุดสืบสวนได้สอบถามข้อมูลและรูปพรรณของคนร้ายจากผู้เสียหาย ทราบว่าเป็นชายรูปร่างสันทัด และยานพาหนะคล้ายกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกัน จึงนำกำลังออกตรวจสอบบ้านผู้ต้องสงสัย พบนายเอ็กซ์ อายุ 33 ปี ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในชุมชนแห่งหนึ่ง จึงตรวจสอบภายในบ้านพบเนื้อหมูทำเป็นกับข้าวหมูทอด 1 จาน กำลังจะกินกับลูก 4 คน ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ไปก่อเหตุขโมยเนื้อหมูของผู้เสียหาย ที่ลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้า จากนั้นได้นำมาประกอบอาหารกินกับลูกๆ ซึ่งตนไม่ได้ทำงานอะไรเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวมีลูก 4 คน อายุ 3-10 ปี ที่ตนทำไปเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายและซื้ออาหารมาให้ลูกกิน

โดยตนจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามตลาดสด และหน้าห้างสรรพสินค้า เมื่อพบว่ามีใครนำอาหารหรือสิ่งของแขวนไว้ที่รถจักรยานยนต์ ก็จะเข้าไปขโมย แล้วกลับมาที่บ้าน เพื่อทำกินภายในครอบครัว และไม่ได้นำไปขายต่อ

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งในข้อหา ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ในเคสขโมยเนื้อหมู และจะได้สอบสวนขยายผลเนื่องจากผู้ต้องหาก่อเหตุหลายครั้ง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ