เปิดคำพูดลูกนายเอก บอกให้พ่อรีบกลับมาอย่าลำบากอยู่ที่นู่นเลยแม่ถูกรางวัลที่1 แล้ว
จากกรณี นายนรินทร์ หรือเอก หาญคำจันทร์ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังแต่งงานอยู่กินกับภรรยานานกว่า 20 ปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คนตนเองไปทำงานที่ประเทศเกาหลีส่งเงินให้ภรรยาใช้ทุกเดือนหลังภรรยาถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ได้เงิน 12 ล้าน กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นยังแอบหนีไปแต่งงานกับชายคนใหม่เป็นนายตำรวจควบคุมฝูงชนทำให้ตนเองเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าเมียรักที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 20 ปีจะทำร้ายจิตใจตนเองได้ถึงขนาดนี้
นายนรินทร์ หรือ เอก เล่าทั้งน้ำตาอีกว่าตนกับภรรยาชื่อนางสาวฉวีวรรณหรือหวี พงษ์วิเศษ อายุ 45 ปี แต่งงานอยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี จนมีลูกสาวด้วยกัน 3 คน มีความเป็นอยู่ฐานะยากจน ครอบครัวเป็นหนี้กว่า 2 ล้านบาท ตนกับภรรยาจึงปรึกษากันและตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีด้วยกันทั้งสองคนในปี 2557 ต่อมาตนได้ทราบข่าวจากทางคุณพ่อว่า แม่ของตนเอง จากไปแล้ว ตนเองกับภรรยาจึงปรึกษากันว่าจะทำ อย่างไรดี สุดท้ายภรรยาบอกว่าถ้าเรากลับทั้งสองคน ก็ยังใช้หนี้ที่เหลือไม่หมดให้ตนตัดสินใจให้ดีตอนนั้นภรรยาตนตั้งครรภ์ 7 เดือนตนจึงตัดสินใจให้ภรรยาเดินทางกลับประเทศไทย โดยตนเองทำงานส่งให้ภรรยาใช้ทุกเดือนเดือนละ 27,000 ถึง 30,000 บาท
จนกระทั่งตนมาทราบจากลูกและพ่อของตนเองว่าภรรยาตนเองถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 มีนาคม 64 เป็นลอตเตอรี่หมายเลข 835538 ภรรยาได้เงินมาทั้งสิ้น 12 ล้านบาท แต่ก็ไม่เคยบอกตนเองให้รู้เลย ตนทราบจากลูกว่าให้พ่อรีบกลับมาอย่าลำบากอยู่ที่นู่นเลยเพราะแม่ถูกลอตเตอรี่แล้วตนพยายามโทรติดต่อพูดคุยกับภรรยาแต่เขาก็ไม่รับสายอีกทั้งยังบล็อกเบอร์โทรศัพท์บล็อกเฟซตนเองตนเองจึงได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 66 เพื่อที่จะไปหาภรรยากับลูกทั้งสามคนโดยเฉพาะลูกสาวคนที่ 3 ตนยังไม่เคยเห็นหน้าเลยปรากฏว่าพ่อของตนเองได้บอกกับตนว่าภรรยาตนแต่งานไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 66 กับนายตำรวจประจำแผนกควบคุมฝูงชน บชน .ตอนนั้นตนเองรู้สึกช็อคทำอะไรไม่ถูกเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าเมียรักที่อยู่กินด้วยกันมานานกว่า 20 ปีจะทำร้ายตนเองได้ขนาดนี้ ตอนนี้ตนทำอะไรไม่ถูกจริงๆเพราะตนก็ไม่เหลืออะไรแล้วเงินที่ได้จากการทำงานที่ประเทศเกาหลีก็ส่งมาให้ภรรยาใช้ทุกเดือนจน เหลือติดตัวอยู่เพียง 6 หมื่นบาท อยากให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือในด้านเรียกร้องขอความเป็นธรรมในส่วนที่ตนควรจะได้รับ นายเอกกล่าวทั้งน้ำตา
ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า อย่างแรกเลยถ้าเขาไม่ได้อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาฝ่ายชายไม่จำเป็นต้องส่งเงินให้ เดือนละเกือบ 30,000 บาท แสดงว่าเขายังอยู่กินกัน ขณะที่เขาซื้อลอตเตอรี่ต้องแบ่งคนละครึ่งตามกรรมสิทธิ์ร่วม ส่วนสามีใหม่ที่มาแต่งงานเป็นตำรวจ น่าจะรู้ว่าเขายังไม่เลิกกัน ถ้าเขาเลิกกันแล้วทางนี้จะส่งเงินให้ทำไม ผู้ชายเขาส่งเงินให้ไปเลี้ยงดูครอบครัวไม่ใช่แค่ไปเลี้ยงลูกแล้วคุณไม่แจ้งเขา ผู้ชายสามารถยื่นเอาผิดทางวินัยได้ โทษหนักสุด ออกจากราชการตำรวจได้ ต่อให้เขาจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินกันและมีคนรับรู้ในหมู่บ้านว่าเป็นผัวเมียกัน ผัวไปทำงานที่เกาหลีเมียเลี้ยงลูกอยู่ชัยภูมิ ลองคุยกันดูว่าจะเอายังไง ลูกสองคนมีคนนึงโตแล้วแต่มีอีกคนที่ยังเล็กอยู่ ต้องแบ่งทรัพย์สินเพราะผู้ชายบอกไม่เหลืออะไรเลย ผู้ชายส่งเงินมาให้เมียปีละเกือบ340,000-350,000 บาท ทุกปีตั้งแต่ทำงานที่เกาหลี ลูกบอกว่าพ่อมีเงินแค่ 60,000 บาท ตัวพ่อมีแค่นี้ไม่เหลืออะไรเลย ส่วนในด้านคดีต้องไปฟ้องศาลเพื่อขอแบ่งกรรมสิทธิ์คนละครึ่งคนละ 6 ล้านบาท