เผยสาเหตุ แม่หนุ่มช้ำรัก ถูกแฟนสาวหมั้นซ้อนชายอื่น ไม่เอาทองหมั้นคืน
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ นางคูณ อายุ 54 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมลูกชาย อายุ 20 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย โดยให้ครอบครัวฝ่ายหญิงคืนสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ที่ใช้สำหรับหมั้นหมายกันไว้เมื่อปี 2562 คืน หลังจากฝ่ายหญิงผิดสัญญาแอบไปหมั้นหมายกับชายคนอื่น โดยทางครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวฝ่ายชายรับทราบว่าจะมีการยกเลิกการหมั้นหมาย
นางคูณ บอกว่า เมื่อวานหลังจากที่เดินทางไปบ้านฝ่ายหญิง เพื่อสอบถามทางครอบครัวถึงสาเหตุว่าทำไมถึงมีการหมั้นซ้ำซ้อน ทั้งที่ยังไม่ได้ถอนหมั้นกับลูกชายตัวเอง แต่ทางพ่อฝ่ายหญิงก็เดินออกมาไล่ให้กลับ เพราะที่บ้านเขากำลังทำพิธีหมั้นหมายอยู่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และเดินทางกลับมาบ้าน แต่พอช่วงเย็นพ่อของฝ่ายหญิงได้เข้าไปที่บ้านญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย แล้วฝากบอกกับทางญาติว่า ถ้าอยากได้ทองหมั้นคืนให้ครอบครัวฝ่ายชายไปเอาเองที่บ้าน แล้วก็เดินทางกลับโดยที่ตนเองไม่ได้พูดคุยอะไรกับทางครอบครัวฝ่ายหญิงเลย
แล้วช่วงที่เดินทางกลับก็ขับรถสวนกับรถลูกชายแล้วพ่อของฝ่ายหญิงก็ชี้หน้าลูกชาย ตนจึงมาพูดคุยปรึกษากับสามีแล้วก็เห็นตรงกันว่า คงจะไม่เดินหน้าเรียกร้องเอาทองหนัก 1 บาทที่เคยหมั้นหมายฝ่ายหญิงไว้คืนแล้ว เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกชาย และที่ครอบครัวฝ่ายหญิงบอกว่าถ้าอยากได้ทองคืนก็ให้ไปเอาที่บ้านเขาเอง ตนก็คงไม่กล้าไปเพราะไม่อยากจะให้เกิดปัญหาบานปลาย แต่หากเขาเห็นใจอยากจะคืนให้ก็ฝากญาติผู้ใหญ่ หรือมอบคืนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ แต่หากจะให้ตนเดินทางไปเอาเองก็คงไม่กล้าไป แต่หากเขาไม่คืนให้ตนก็คงจะทำอะไรไม่ได้ และคงจะไม่เดินหน้าเรียกร้องต่อแล้ว ก็คงจะจบแค่นี้
แต่ก็ยอมรับว่าเสียใจที่ทางครอบครัวฝ่ายหญิงทำพิธีหมั้นซ้อน โดยที่ไม่แจ้งทางครอบครัวของตนเองว่าจะยกเลิกหรือขอถอนหมั้น แต่กลับไปหมั้นซ้ำซ้อนซึ่งเป็นการทำร้ายจิตใจลูกชายของตนเอง หากเขาแจ้งก่อนล่วงหน้าว่าจะยกเลิกการหมั้นเพราะทั้งคู่ไปด้วยกันไม่ได้ ตนก็จะไม่เสียหาย สุดท้ายก็อยากบอกว่าถ้าทั้งคู่รักกันจริงก็น่าจะรอกันหน่อย เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่ต่างก็รักลูกตัวเองอยู่แล้วแต่สมัยนี้คนอาจจะมองว่า เงินคือพระเจ้า
ส่วนทางฝ่ายหญิง และครอบครัว ก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไรเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า เบื้องต้นก็ให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยเพื่อตกลงกัน แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ตามกระบวนการ