ทนายจี้ตรวจสอบ ลุงพล ใช้บัญชีตัวเอง เดินเรี่ยไรเงินจากสกลนคร ไปวัดพระธาตุพนม
จากกรณีที่ ลุงพล หรือ นาย ไชย์พล วิภา ได้มีการจัดกิจกรรมเดินแสวงบุญเรี่ยไรเงิน จากจังหวัดสกลนคร ไปวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยอ้างว่าเพื่อแสดงออกถึงพลังศรัทธา พร้อมเปิดให้ร่วมทำบุญบริจาค สมทบทุน นำมาถวายวัดพระธาตุพนม กำหนดการเดินทาง ซึ่งมีตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ระยะทางรวมประมาณ 200 กิโลเมตร
ภาพจาก ไชย์พล วิภา
ล่าสุดทางด้านทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายที่เคยรับว่าความให้กับ ลุงพล ไชย์พล วิภา ได้มีการออกมาเรียกร้องให้ทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร รวมถึงหน่วยงานตำรวจ ตรวจสอบลุงพล เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเดินแสวงบุญดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสแอบแฝงสร้างคอนเทนต์ และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจร พร้อมเรียกร้องให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม สั่งการให้ตำรวจไปตรวจสอบ และดำเนินคดีหากเข้าข่ายความผิด
ในขณะที่ทางด้าน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และไวยาวัจกร วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ออกมาเปิดเผยว่า ตนในฐานะผู้ดูแลปกป้องพระพุทธศาสนา และทนายกองทัพธรรมดูแลเรื่องกฎหมาย ไม่ให้มีใครมาแอบแฝงเพื่อประโยชน์ส่วนตน มีการจัดระเบียบดูแลร่วมกับกรรมการวัดพระธาตุพนม มาตลอด กรณี ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ออกมาเรียกร้องให้วัดพระธาตุพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกิจกรรมเดินแสวงบุญของ ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ตนยืนยันว่า วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นความขัดแย้งส่วนตัว เพราะทั้งสองเคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน
ขอแนะนำว่า อย่าเอาวัดพระธาตุพนมไปเกี่ยวข้อง สร้างกระแส หรือสร้างคอนเทนต์ เพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าใครก็ตามที่จะแสวงบุญ หรือร่วมทำบุญกับวัดตนยินดี ไม่ขัดศรัทธา แต่จะต้องเป็นความตั้งใจ