สาวอุบลฯ ปลูกข่าอินทรีย์ สร้างรายได้งาม
ที่บ้านนาเยีย หมู่ที่ 1 ตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี ของ น.ส.ชัญญานุช สายทอง ปลูกข่าขายพันธุ์ข่าเกษตรแดงใหญ่แบบอินทรีย์ 100% ขายดิบขายดี มีรายได้เดือนละกว่า 6-8 หมื่นบาท บนพื้นที่ใช้ปลูกเพียง 5 ไร่เศษ
น.ส.ชัญญานุช เกษตรกรผู้ปลูกข่ารายนี้ เล่าถึงการปลูกข่าเกษตรแดงใหญ่ เพราะพื้นที่ของตนไม่แน่นอนเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ บางปีก็แล้ง บางปีก็มีน้ำท่วม แต่ข่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทนแล้ง ต้านทานโรคได้ดี ดูแลง่าย ตลาดมีความต้องการต่อเนื่อง
เพราะใช้เป็นส่วนผสมในการทำอาหารไทยหลากหลายเมนู จึงมีตลาดรองรับตลอดทั้งปี ราคาไม่ตกต่ำมาก ประการสำคัญคือ ข่าเกษตรแดงใหญ่ ลงทุนปลูกครั้งเดียว สามารถให้ผลผลิตได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ปี และเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องให้น้ำทุกวันก็ได้ และให้ผลผลิตเร็ว เพียง 8-9 เดือนก็เก็บออกขายสู่ตลาด จากนั้น ก็จะแตกหน่อเกิดขึ้นมาใหม่ในเก็บขายในรอบถัดไปได้อีก
สวนข่าของตน เน้นปลูกออกพืชออแกนิก เพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต และดีต่อสุขภาพของผู้นำไปบริโภค เพราะปราศจากสารเคมีทุกชนิด จึงเป็นที่ต้องการของตลาดสั่งซื้อเข้ามาผ่านระบบออนไลน์ เพื่อนำต้นพันธุ์ไปปลูกต่อ รวมทั้งมีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามารับซื้อถึงในสวนไม่ต้องนำส่งขายเหมือนพืชชนิดอื่นๆ ทำให้มีต้นการปลูกไม่สูง จึงมีกำไรจากการปลูกมาก
สำหรับข่าเกษตรแดงใหญ่ ต้นข่า 1 กอ จะมี 40 ต้น การปลูกข่าครั้งแรกที่ขุดขายให้ขุดข่าแบบยกกอ หรือเหลือกอเดิมไว้ 3-4 ต้น กลบดินคืน แล้วบำรุงด้วยขี้วัว แกลบขาว รออีก 1 เดือน กอข่าจะแตกหน่อออกมาเต็มเหมือนเดิม ก็ตัดขายได้อีก ไม่ต้องลงทุนปลูกใหม่ ลงทุนปลูกแต่ละรุ่นเพียงครั้งเดียวเก็บขายได้ตลอดทั้งปี
ส่วนการดูแลก็ง่าย เพียงอย่าให้อยู่ในพื้นที่ชื้นแฉะ หรือมีน้ำขังมากเกินไป เพราะข่าไม่ชอบที่ที่มีน้ำมาก จะทำให้เน่าตายได้ง่าย วิธีปลูกแค่ขุดหลุมปลูกห่างกันประมาณ 80 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร ซึ่งผลผลิตที่เป็นหน่ออ่อน นิยมเอาไปแกง เช่นแกงข่าไก่ เอาไปจิ้มกินกับน้ำพริก เพราะมีรสชาติหวานนิดๆ และกรอบอร่อย