เมียตอบแล้วปม ขอส่วนแบ่งมรดก กรณีหนุ่มดับใต้สะพานรถไฟ แม่ลั่นเลิกกันไปแล้วนี่
จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรีได้รับแจ้งเหตุว่า พบศพชายนอนเกยตื้นเสียชีวิตในสภาพ ศีรษะ และลำตัวเกยอยู่บนตลิ่ง น้ำท่วมถึงระดับใบหู ในขณะที่ส่วนอื่นจมอยู่ใต้น้ำ บริเวณสะพานคลองเพรียว ใต้สะพานข้ามทางรถไฟ (สะพานดำ) ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี และแพทย์จากโรงพยาบาลสระบุรี ได้เข้าชันสูตรชายซึ่งสวมกางเกงยีนสีดำ สวมเสื้อยืดลายสีดำ กระเป๋าคาดที่หน้าอก 1 ใบ มือทั้งสองข้างแนบหู มีรองเท้าถูกสอดไว้ที่ ข้อมือด้านซ้ายทั้ง 2 ข้าง ลักษณะเหมือนถอดรองเท้าวิ่งหนีใครมา พบรอยถลอกตามร่างกาย ที่บริเวณไหล่ด้านขวามีบาดแผลเป็นรูลึกลงไปคล้ายถูกเหล็กแหลมแทง
ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 92,000 บาท สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดเดือนตุลาคมอีกจำนวนหลายฉบับ นอกจากนี้ ยังพบเงินสกุลเกาหลีอีกจำนวนหนึ่ง เหรียญประมาณ 200 บาทพาสปอร์ต และบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นายสายัน ตระกูลรัมย์ อายุ 48 ปี เป็นชาวบุรีรัมย์ จากนั้นแพทย์ได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.นครนายก เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนเมืองสระบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ อีกครั้ง จากนั้นได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสถานีรถไฟสระบุรี โดย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน แลเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม เพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.จำปี (สงวนนามกุล) อายุ 45 ปี ชาว จ.หนองคาย ได้รับคำตอบว่า ตนกับสามียังไม่ได้เลิกกัน ยังโทรติดต่อกันตามปกติ สามีส่งเงินมาให้ทุกเดือนๆละ 10,000 บาทไม่ขาดไม่เกิน ครั้งสุดทั้งสามียังส่งข้อความมาว่า กูรักมึงนะ อีกด้วย
ตอนนี้ตนยังคิดอะไรไม่ออก อยากจะไปร่วมงานศพสามีที่บุรีรัมย์ แต่ไม่มีเงินเดินทางไป เพราะเกรงว่าญาติทางสามีจะเข้าใจผิด ส่วนตัวอยากจะมีส่วนแบ่งกับทรัพย์สินของสามี ถึงแม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสก็ตาม แต่ได้อยู่กินกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว
ด้านนางทวน ตระกูลรัมย์ อายุ 71 ปี แม่นายแยบ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 15 วัน หลังลูกชายโทรมาแจ้งว่าภรรยาไปมีแฟนใหม่ ตนได้โทรศัพท์ไปหาลูกสะใภ้ที่ จ.หนองคาย ได้รับคำตอบว่า หนูเลิกกันแล้ว ตนไม่ว่าอะไร จนกระทั่งลูกชายมาเสียชีวิต ตนก็โทรไปแจ้งอีก แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่มีเงินค่ารถ ทั้งที่ลูกชายส่งให้เดือนละ 10,000 บาท ส่วนทางคดีก็อยากจะให้ตำรวจรีบสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวการเสียชีวิตของลูกชายให้โดยเร็ว เพราะยังคาใจอยู่