ลูกหนี้แสบ สั่งคนรื้อบ้านเจ้าหนี้เหลือแต่ตอ ฉุนถูกทวงเงินบ่อย
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า โลกออนไลน์มีการส่งต่อคลิปเหตุการณ์ของผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ สายไหมต้องรอด โดยโพสต์ดังกล่าวเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดหน้าหอพักแห่งหนึ่ง บันทึกภาพกระบะสีขาว 2 คันขับมาจอด ก่อนที่จะมีชายประมาณ 4 คนลงจากรถ บางส่วนถือแท่งเหล็ก เดินเข้าไปตีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่จนได้รับความเสียหาย
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ซึ่งได้ระบุว่า หลายครอบครัวกำลังประสบปัญหาเรื่อง เงินกู้ ครั้งที่ 1 บุกรุกบ้าน ทำร้ายทรัพย์สินและรถยนต์ ครั้งที่ 2 บุกเข้าหอพัก ทุบทำลายรถจักรยานยนต์ ครั้งที่ 3 ลักทรัพย์ บุกรุกรื้อบ้าน ท้องที่ สน.ประเวศ ตรวจสอบให้ด้วยนะคะ ปจว.ลงวันที่ 11/4/65 , 7/8/65
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ต่อมาทาง ข่าวช่อง3 เผยถึงบทสัมภาษณ์ของ นายธนพล อายุ 57 ปี ผู้เสียหาย ว่า ปมสาเหตุเกิดจากการที่ตนเอง มาขอเช่าที่ดินของหลานสะใภ้ภายในซอยกรุงเทพกรีฑา 47 อาศัยอยู่ เพื่อปลูกบ้านหลังเล็กๆ โดยตนจ่ายค่าเช่าตลอดชีพเป็นเงิน 2 หมื่นบาท แต่มีข้อแลกเปลี่ยนกันคือ ตนเองต้องให้หลานสะใภ้ยืมเงินจำนวน 2 แสนบาท โดยอ้างว่าไปใช้ซ่อมแซมบ้านที่ชำรุด ซึ่งตกลงว่าจะคืนเงินให้ภายใน 2 เดือน
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สายไหม ต้องรอด
ตนเองจึงให้ยืมไปตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2565 โดยเป็นการให้ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ยเนื่องจากในทางศาสนาอิสลาม ไม่สามารถคิดดอกเบี้ยได้
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สายไหม ต้องรอด
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลานสะใภ้ไม่ได้เอาเงินไปซ่อมแซมบ้านตามที่บอกไว้ ลูกชาย คือ นายทรงยศ อายุ 33 ปี จึงพยามโทรไปทวงถามว่าจะคืนเงินเมื่อไหร่ แต่ก็ได้คำตอบว่า จะคืน แต่ก็ไม่เคยโอนคืนมาให้ ซึ่งยืนยันว่า เวลาโทรไปทวงถาม ไม่มีการข่มขู่ และเป็นการสอบถามดีๆ
ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สายไหม ต้องรอด
แต่พอมีการทวงถามบ่อยมากขึ้น กลับกลายเป็นว่า หลานสะใภ้ให้น้องชายที่เป็นฝาแฝด 2 คน มาข่มขู่หาเรื่องพวกตน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง
ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 น้องชายฝาแฝดของหลานสะใภ้ยกพวกมาทำลายบ้านที่อยู่อาศัย ทำให้กระจกแตก ผนังบ้านพังเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจาย รวมถึงรถถูกเอาเหล็กฟาดจนกระจกแตก ทำให้ไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ และตัดสินใจย้ายออกจากบ้าน เพราะเกรงความไม่ปลอดภัย และไปอยู่หอพักในซอยกรุงเทพกรีฑา 14 แทน แต่ก็ไม่วาย กลุ่มผู้ก่อเหตุยังตามมาราวี ยกพวกมา 4 คน มาถึงที่หอพัก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ตามคลิปวงจรปิดที่ปรากฎ ก่อนที่จะเอาไม้มาตีรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าหอพักพังเสียหาย
จากนั้นในวันเดียวกันจึงกลับไปที่บ้านเช่าของตัวเอง ในซอยกรุงเทพกรีฑา 47 พอไปถึงบ้าน ถึงกับตกใจ เพราะบ้านทั่งหลังที่สร้างไว้ บนที่ดินของหลานสะใภ้ ถูกรื้อออกไปเหลือแต่ตอ
นายธนพล บอกว่า ตนได้เงินจากคู่กรณีมา 5,000 บาท โดยทางคู่กรณีบอกว่า เป็นเงินที่ได้จากการเอาเศษเหล็กของบ้านที่ถูกรื้อไปขาย ทำให้ตนตัดสินใจไปแจ้งความอีกรอบ แต่ปรากฏว่าผ่านมา 7 เดือน ตั้งแต่แจ้งความครั้งแรก คดีก็ไม่มีความคืบหน้า
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เป็นเหตุการณ์ที่กลับกัน ปกติผู้เสียหายต้องเป็นลูกหนี้ แต่ครั้งนี้คือเจ้าหนี้ ที่ให้ยืมเงิน แถมไม่ได้คิดอกเบี้ย แต่กลับถูกบุกทำลาย ข่มขู่ เบื้องต้นประสานไปที่ผู้กำกับการ สน.ประเวศ เพื่อสอบถามความคืบหน้าทางคดี
ขอบคุณข้อมูล ่ข่าวช่อง 3 และ เพจ สายไหม ต้องรอด