ชาวนาเฮ พาณิชย์เคาะ ชดเชยประกันรายได้แล้ว
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (ปี 4) เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2565 แล้ว คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประกันรายได้ ปี 2565/66 (ปี 4) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 6 งวด จาก 33 งวด ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ในโครงการฯ ยังคงหลักการเช่นเดิม
และหลังจากประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงแล้ว ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการ โดยงวดที่ 1-งวดที่ 6 ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินได้ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นี้ ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 73 ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและส่วนต่างการชดเชยสำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวในแต่ละงวด ดังนี้
งวดที่ 1 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2565
งวดที่ 2 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 15-21 ตุลาคม 2565
งวดที่ 3 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 22-28 ตุลาคม 2565
งวดที่ 4 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2565
งวดที่ 5 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2565
งวดที่ 6 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 12-18 พฤศจิกายน 2565
สำหรับในงวดที่ 7-งวดที่ 33 ก็จะประกาศทุก 7 วัน ขอให้ติดตามการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th วิทยุชุมชน หรือเสียงตามสาย
อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า นอกเหนือจากโครงการประกันรายได้ รัฐบาลยังได้อนุมัติมาตรการคู่ขนาน สำหรับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตร โดยคงหลักการเช่นเดียวกับปี 1-ปี 3 ได้แก่ มาตรการชะลอขาย โดยให้เกษตรกรจัดเก็บไว้ในยุ้งฉางของตนเอง ซึ่งรัฐจะช่วยค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.5 ล้านตัน เพิ่มจากปีก่อนที่ 2.0 ล้านตัน และเสริมสภาพคล่องแก่สถาบันเกษรตรกร โดยสามารถกู้ยืมจาก ธ.ก.ส. และรัฐช่วยดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 1 ปี โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านตัน หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขตามที่กำหนด รวมทั้งได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง จึงขอให้เกษตรกรตรวจสอบชื่อบัญชีให้ตรงกับการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อหรือโกงน้ำหนัก แจ้งสายด่วน 1569
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้ เห็นชอบดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมมาตรการคู่ขนานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างยั่งยืน วงเงิน 81,265 ล้านบาท ผ่านโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 เป้าหมายเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.68 ล้านครัวเรือน เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรตั้งแต่ 24 พ.ย. 65 เป็นต้นไป