เจ้าของงง จู่ๆ มีคนมาปลูกบ้านในที่ดินตัวเองพร้อมประกาศขาย คู่กรณีแจงอีกมุม
จากกรณี นายไพรัตน์ ชาวโรจน์ อายุ 45 ปี พาชมบ้านชั้นเดียวจำนวน 2 หลังและยังขึ้นป้ายประกาศขายบ้านทั้งสองหลังที่กำลังสร้างอีกด้วย ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของตน ที่มีเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้อง จำนวน 110.5 ตารางวา ซึ่งที่ผ่านมา ตนไม่เคยจ้างผู้รับเหมามาก่อสร้างบ้านในที่ดินของตน
แต่จู่ๆ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ปีที่แล้ว ตนได้รับหนังสือให้มานำชี้วัดแนวเขตที่ดินข้างเคียง ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจแนวเขตชี้วัด แต่ปรากฏว่า เมื่อมาถึง กลับพบว่ามีผู้มาปลูกสร้างบ้านจำนวน 2 หลังในที่ดินของตน ซึ่งก็คือผู้ที่เป็นคนร้องขอรังวัดที่ดินในวันดังกล่าว
เมื่อได้พูดคุยจึงรู้ว่าเป็นการปลูกบ้านในที่ดินผิดแปลง จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลก็ได้มาชี้แจงว่า จะออกหนังสือคำสั่งระงับการก่อสร้าง เนื่องจากบ้านทั้งสองหลังปลูกสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่หนังสือดังกล่าวกลับออกมาแจ้งต่อตนที่ไม่ได้เป็นคนสร้างบ้าน แต่เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกบุกรุก แถมในหนังสือยังระบุว่า จะดำเนินการปรับเงิน ฐานก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใด ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นผู้สร้างบ้านทั้งสองหลัง แถมยังเป็นผู้ที่ถูกบุกรุกที่ดิน แต่กลับจะต้องมาเสียค่าปรับเช่นนี้ด้วย ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่อง ตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้าแล้ว โดยนำเอกสารยืนยันการถือครองที่ดินไปแจ้งความข้อหาบุกรุกกับผู้ที่มาสร้างบ้านในที่ดินของตน ขณะนี้ คดีอยู่ในชั้นของอัยการ นอกจากนี้ ตนยังได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ตนต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดแต่เป็นผู้เสียหายที่ถูกบุกรุกที่ดินเช่นนี้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางเกญชญา จิตตปัชญากุล อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า มาสร้างบ้านบนที่ดินของคนอื่น โดย นางเกญชญา ยอมรับว่า ได้สร้างบ้านบนที่ดินของคู่กรณีจริง แต่ไม่ได้มีเจตนา โดยสาเหตุสืบเนื่องมาจาก ตนได้ไปซื้อที่ดินมาจากคนรู้จัก ซึ่งคนที่ขายที่ให้ ก็ได้นำชี้ที่ดินบริเวณแปลงที่ตนสร้างบ้านขึ้นและเกิดปัญหาในปัจจุบัน
กระทั่งตนไปจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินของเอกชน มาทำการรังวัดที่ดิน จึงได้ทราบว่าตนสร้างบ้านในที่ดินของคนอื่น เนื่องมาจากเจ้าของที่ดินเดิม ซึ่งขายที่ให้กับตนนั้นชี้ที่ดินผิดแปลง ซึ่งแปลงที่ตนซื้อมาจริงนั้นก็อยู่ติดกับแปลงที่มีปัญหา และมีเนื้อที่เท่ากัน หลังตนทราบว่าสร้างบ้านขึ้นบนที่ดินของคนอื่น ก็ได้หยุดการก่อสร้างทันที รวมถึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของที่ดินตัวจริง เพื่อเจรจาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยตนเองยินยอมที่จะจ่ายเงินซื้อที่ดินแปลงที่ตนไปถมที่และสร้างบ้านจากเจ้าของที่ตัวจริง ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวมีราคาประเมินอยู่ที่ประมาณ 3 แสนถึง 4 แสนบาท แต่หลังจากตนได้โทรศัพท์พูดคุยรวมถึงนัดเจรจากับเจ้าของที่ดินตัวจริงมาหลายครั้ง ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากเจ้าของที่ดินเรียกร้องเงินค่าขายที่เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าราคาประเมินหลายเท่า
ตนพยายามเจรจาต่อรอง และพร้อมที่จะจ่ายราคาที่ดินให้ในราคา 1,200,000 บาท แต่เจ้าของที่ดินก็ยังไม่ยินยอม ทำให้การเจรจาไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนยืนยันว่ายินดีที่จะซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวให้ถูกต้องเพื่อจะได้จบปัญหา แต่เนื่องจากราคาที่เจ้าของที่เรียกมาสูงเกินที่ตนจะสามารถหามาจ่ายได้ จึงอยากขอความเมตตาจากคู่กรณีช่วยลดราคาลงมาเพื่อจบปัญหาดังกล่าวด้วยดี