วันที่ 11 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายสมฉัตร สุดที่รัก อายุ 67 ปี (ผู้เสียหาย) พ่อค้าขายไข่เป็ดริมถนน 347 มุ่งหน้า อ.บางปะอิน ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเข้าไปช่วยเหลือรถยนต์กระบะเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนเสาไฟข้างทางจนคนขับได้รับบาดเจ็บ กลับมาร้านอีกทีถูกคนร้ายขโมยไข่เป็ดไป 14 แผง รวม 420 ฟอง หลบหนีไป

นายสมฉัตร พ่อค้าขายไข่เป็ด เล่าว่า ตนเองเปิดร้านขายไข่เป็ดและขายโรตีอยู่ข้างถนน ช่วงนั้นนั่งอยู่ที่ร้านแล้วเห็นรถยนต์กระบะวิ่งมาจู่ๆ ไถลตกพลิกคว่ำลงข้างทาง ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปเพื่อจะช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่ติดอยู่ภายในรถ พบว่าผู้บาดเจ็บเป็นคนขับอาการสาหัสจึงช่วยเหลืองัดเอาผู้ได้รับบาดเจ็บออกมา รวมทั้งพลเมืองดีอีก 1 คน จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาทำการช่วยเหลือ ตนยังได้เฝ้าทรัพย์สิน เงิน ทอง ซึ่งอยู่ในกระเป๋าของผู้ได้รับบาดเจ็บไว้ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นจึงกลับมาที่ร้านก็แทบตกใจเมื่อพบว่าไข่เป็ดที่วางไว้เพื่อเตรียมที่จะนำมาขายหายไปทั้งหมด 14 แผงจำนวน 420 ฟอง

พ่อค้าขายไข่เป็ด กล่าวต่อว่า ส่วนตัวจึงคิดว่าขณะที่ไปช่วยคนเจ็บนั้น น่าจะมีคนร้ายขับรถเข้ามาจอดแล้วอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่ร้านขโมยไปหมด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนคิดว่าคนที่มาขโมยไปคงไม่มีอะไรกินหรือขัดสนจึงมาก่อเหตุ แต่ก็ภูมิใจที่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุที่เกิดต่อหน้าตนเอง แต่ถ้าตนเองไม่ทิ้งร้านแล้วไม่ไปช่วยเหลือผู้ที่รับบาดเจ็บอาจจะเสียชีวิตก็เป็นได้ คิดว่าก็คงจะไม่ไปแจ้งความ เพราะคนที่ขโมยคงจะไม่มีอะไรกิน แต่ก็ภาคภูมิใจสิ่งที่ตัวเองทำความดีในครั้งนี้ ก็คงจะต้องขายไข่เป็ดที่ยังเหลืออยู่ให้หมด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ก็จะมีการแนะนำให้เจ้าของร้านขายไข่เป็ดที่ช่วยเหลือชาวบ้าน และโดนคนร้ายจอดรถขโมยไข่ไปนั้นให้มาแจ้งความที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามคนร้ายต่อไป ส่วนบริเวณดังกล่าวนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด เนื่องจากเป็นเส้นทางโล่งๆ และไม่มีบ้านเรือนประชาชน ซึ่งบ้านจะอยู่ห่างมาก ทำให้การติดตามตัวดังกล่าวของคนร้ายทำได้ยาก

ทั้งนี้ใครพบเห็น หรือมีกล้องหน้ารถที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านขณะที่เกิดเหตุ ขอให้นำคลิปมามอบแก่ตำรวจ หรือแจ้งเบาะแสมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา หรือ 191

ข้อมูลและภาพจาก ไทยรัฐ