สาวโวยจอดรถทิ้งในอู่ 3 เดือนสูญ 1.6 แสน แต่รถกลับใช้ไม่ได้ ให้ช่างอีกคนดูโป๊ะแตก

สาวโวยจอดรถทิ้งในอู่ 3 เดือนสูญ 1.6 แสน แต่รถกลับใช้ไม่ได้ ให้ช่างอีกคนดูโป๊ะแตก

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพสภาพรถของตัวเองหลังซ่อมเครื่องยนต์ พร้อมกับภาพแชตที่พูดคุยกับช่างเจ้าของอู่แห่งหนึ่ง โดยระบุข้อความว่า นำรถไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง เนื่องจากรถมีปัญหา ก่อนจะพบว่ามีผู้ไม่หวังดีนำผ้าไปใส่ไว้ในท่อไอดี โดยที่ทางอู่แจ้งว่าจะต้องซ่อม ซึ่งใช้เวลาซ่อมกว่า 3 เดือน จ่ายเงินประมาณ 160,000 บาท แต่ปรากฎว่าเครื่องยนต์รถเสียใช้ไม่ได้ และกลับได้รับอะไหล่ปลอม และราคาแพงเกินจริง

หลังจากเกิดปัญหาและได้รับความเดือดร้อน น.ส.ชนกนันท์ อายุ 27 ปี และ นายสุรศักดิ์ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าของรถ ได้ดำเนินการนำหลักฐานเข้ามาพบ ร.ต.อ.ศักดิ์ดา ตะหริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เพื่อเป็นคนกลางในการเชิญ นายอภินันท์ หรือช่างเอ็ม อายุ 30 ปี เจ้าของอู่คู่กรณี เข้ามาพบเพื่อพูดคุยและหาทางออกในกรณีดังกล่าว

น.ส.ชนกนันท์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าจะแต่งรถ เลยนำไปทำสี และแต่งห้องเครื่อง ที่อู่ในพื้นที่ ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง แต่ปรากฎว่ารถมีปัญหาเรื่องน้ำมันเบรกรั่ว ซึ่งช่างคนแรก รู้จักกัน ได้แนะนำให้รู้จักกับช่างเอ็ม ตนเลยนำรถไปซ่อมที่อู่ของช่างเอ็ม ซึ่งปัญหาก็จบไป รถกลับมาขับได้แบบปกติ ต่อมาได้นำรถไปถ่ายน้ำมันเครื่องที่อู่เดิมในช่วงเช้า ช่วงเย็นนำรถกลับมาขับได้ 1 วัน แต่ปรากฎว่ารถขับไม่ได้ มีอาการวูบ ก่อนจะนำรถกลับไปให้ช่างที่อู่เดิมดู ก่อนช่างจะบอกว่าในน้ำมันเครื่องมีเศษเหล็ก ระบบเครื่องต้องมีปัญหาแน่นอน

ช่างก็แนะนำให้ผ่าเครื่องเพื่อตรวจดู โดยตนก็ยินดี แต่กลับพบว่ามีผ้า 1 ผืน อุดอยู่ในท่อไอดี ตอนนั้นก็โกรธมาก เพราะอยู่ดีๆ ผ้าจะไปอุดอยู่ในท่อไอดีไม่ได้เลย แต่ตนไม่ได้ปรักปรําว่าเป็นใคร โดยที่ช่างเอ็มบอกว่า อาจจะเป็นเพราะอู่ที่เราไปซ่อมก่อนหน้าหรือไม่ ทำผ้าอุดลืมไว้ แต่กลับถูกช่างเอ็มห้ามไว้ว่าอย่าไปโวยวาย อย่าไปเอาเรื่องช่างก่อนหน้านี้ เพราะรู้จักกัน ก่อนที่ตนจะตกลงซ่อมกับอู่ช่างเอ็ม โดยจอดรถอยู่ที่อู่ 3 เดือน เมื่อถึงวันรับรถ กลับปรากฎว่ารถยังมีปัญหาขับไม่ได้อีก ก่อนจะจ่ายเงินให้ช่างเอ็มไปจำนวน 162,205 บาท เพราะไม่กล้าซ่อมอู่เดิมแล้ว

น.ส.ชนกนันท์ กล่าวอีกว่า ต่อมาก็เลยโทรปรึกษาช่างที่รู้จัก ใน จ.ปทุมธานี ตนเลยตัดสินใจ นำรถบรรทุกรถสไลด์ไปซ่อมที่อู่ใน จ.ปทุมธานี เมื่อช่างแกะเครื่องดู ปรากฎว่าช่างเอ็มไม่ได้ใส่อะไหล่ตามที่ตกลงกันไว้ คือไม่ได้ใส่ของแท้ตามที่เขียนในบิล เกือบจะกว่า 30 รายงานในบิล เช่น ในบิลเขียนเปลี่ยนข้อเหวี่ยง MRX แต่เมื่อเปิดดูกลับเป็นข้อเหวี่ยงของรถรุ่นเดิม ที่ไปนำมาจากคันอื่น น็อตฝาสูบในบิลเขียนเป็นน็อตฝาสูบ PHC แต่กลับเป็นน็อตที่ใช้ในงานก่อสร้างมาใส่แทน รวมทั้งราคาส่วนใหญ่ก็เกินจริงไปมาก ซึ่งทำให้เครื่องยนต์อันเดิมที่ให้ช่างเอ็มซ่อม กลับซ่อมไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนหรือยกเครื่องใหม่ไปเลย 1 ลูก ซึ่งการที่เขารับผิดชอบก็ยังคงไม่เพียงต่อกับความเสียหายของเรา เพราะเราต้องซ่อมในราคาที่แพงไปกว่าเดิมถึงรถจะกลับมาใช้ได้ปกติ จำนวนประมาณ 180,000 บาท

โดยเรื่องนี้อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าเชื่อใจใครมากเกินไป เพราะเราไม่ได้ไปตรวจสอบและจุกจิกอะไรเลยในการซ่อม เพราะเชื่อใจ และอยากให้ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ซึ่งความเสียหายของตนรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่ารถสไลด์ ค่าเสียเวลาต่างๆ รวมกับค่าที่จ่ายไปให้กับทางอู่ประมาณ 3 แสนบาทเข้าไปแล้ว

ขณะที่ ช่างเอ็ม กล่าวว่า หลังจากที่ตนซ่อมไปและรถมีปัญหา คู่กรณีไม่ได้ติดต่อเข้ามาหาตนเลย จนกระทั่งตนโทรไปถาม จนรู้ว่ารถมีปัญหาจริง ซึ่งตนก็บอกไปแล้วว่ายินดีจะชดใช้ค่าเสียหายคืนกลับให้ และยอมรับผิดว่าอะไหล่บางตัวไม่ได้เปลี่ยนให้ตามในบิล และยอมรับว่าไม่ได้แจ้งหรือบอกลูกค้าไปก่อนหน้า ส่วนผ้าที่ถูกไปอุดไว้ในท่อไอดี ตนไม่ได้ทำแน่นอน ขอยืนยัน จริงๆแล้วมีอีกอู่หนึ่งที่น้องเขาไปซ่อมก่อนหน้า ตนขอไม่เอ่ยชื่อ ขอให้เรื่องมันจบลงแค่นี้ ส่วนราคาก็ไม่ได้เกินจริง เพราะบางตัวเป็นอะไหล่แต่ง ไม่ใช่อะไหล่เดิม ถ้าอะไหล่เดิมก็ไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ที่ราคา 160,000 บาท เพราะเป็นอะไหล่แต่ง และที่ผู้เสียหายอ้างว่ามีผู้เสียหายหลายคนทักเข้ามาว่า ถูกอู่ตนหลอกไปหลายคน หลังจากที่ไปโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊ก ตนขอไม่ลงรายละเอียด เพราะที่ทำหรือซ่อมไปก็ตามงบของลูกค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันแล้ว ทางผู้เสียหายได้เรียกค่าเสียหายไปกับทางช่างเอ็ม จำนวน 170,000 บาท ทางช่างเอ็มก็ยินดีจะชดใช้คืนให้ ซึ่งล่าสุดโอนคืนกลับไปให้ก่อนในจำนวน 100,000 บาท และในส่วนที่คงเหลือจำนวน 70,000 บาท ทั้งคู่ได้ทำสัญญาต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยช่างเอ็ม ยืนยันตามสัญญาว่าจะคืนให้หมดภายในเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พ.ย.65

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก ch3plus

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ