ผู้เลี้ยงปลากระชังน้ำตาตก น้ำป่าไหลท่วมทำปลาน็อกน้ำ เสียหายกว่า 50 ล้านบาท
เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังริมแม่น้ำแควน้อย ในพื้นที่ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วงและตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 150 ราย ซึ่งมีจำนวนกระชังกว่า 10,000 กระชัง กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชัง ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโนรู เมื่อวันที่ 11ตุลาคม 2565 ส่งผลให้มีฝนตกหนัก ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยวอย่างมาก ทำให้น้ำมีสีแดงขุ่น จนปลาปรับตัวไม่ทัน ไม่มีอากาศหายใจ เกิดอาการน็อกและลอยเกลื่อนกระชัง ทำให้ผู้ที่เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำแควน้อยกว่า 150 ราย ต้องสูญเงินรวมกันเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท จากเหตุการณ์ในครั้งนี้
นายคมเพชร ประธานชมรมผู้เลี้ยงปลากระชังลุ่มน้ำภาคกลาง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า จากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยวกรากในครั้งนี้ ส่งผลให้ เกษตรกรหลายราย เกิดความเสียหายปลาน็อก เฉลี่ยรายละ 5-10 ตัน ซึ่งจากการประเมินปริมาณปลาที่ตายของผู้เลี้ยงทุกรายรวมกัน มีมากถึง 500ตัน และยังคงมีการทยอยเพิ่มเรื่อยๆทุกวัน ซึ่งยังไม่นับถึงปลาที่หลุดออกไปเพราะกระชังพังเสียหายก็มีอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
นายคมเพชร ยังได้กล่าวอีกว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ทำให้เกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังกำลังเดือนร้อนอย่างหนัก เนื่องจากปลาน็อกจำนวนมาก โดยปลากระชังที่ตนและกลุ่มเพื่อนเกษตรกรเลี้ยงทั้งหมดเป็นปลาทับทิม ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้มันเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะที่ผ่านมาในช่วงฤดูฝน แม่น้ำสายนี้มักจะเกิดน้ำหลากท่วมทุกปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาผลกระทบเกิดความเสียหายไม่เท่ากับครั้งนี้ โดยครั้งที่ผ่านๆมาอาจได้รับผลกระทบแค่เกษตรกรบางรายของผู้เลี้ยง แต่ครั้งนี้ได้รับความเสียหายตั้งแต่หัวน้ำยันท้ายน้ำได้รับผลกระทบความเสียหายกันทุกราย และในบางรายได้รับความเสียหายเกือบ100%
ทั้งนี้ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจะต้องแบกรับภาระต้นทุนการเลี้ยงจากค่าอาหารที่มีการปรับราคาแพงขึ้นมาตลอด ตนจึงอยากฝากวิงวอนในฐานะตัวแทนเกษตรกรผ่านมาทางสื่อ ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวของขอให้เข้ามาดูแลเราบ้าง ในทุกๆครั้งที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมนั้น พวกเราไม่เคยที่จะขอความช่วยเหลือใดๆเลยเพราะคิดว่าพวกเราชาวเกษตรกรที่เลี้ยงปลานี้ยังพอที่จะช่วยตัวเองได้ แต่ครั้งนี้มันรุนแรงเกินที่จะรับไหวจริงๆ มันเป็นตัวเลขที่มหาศาลมากเกินที่เราชาวเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาจะรับกันไหว จึงขอวิงวอนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือสำนักงานประมง หรือจะเป็นหน่วยงานไหนก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยลงมาดูพวกเราผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้าง