โตโน่ เคยโดนคอมเมนต์ด่า ไอ้ลาว เล่าครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กเดินโพย ขัดส้วมที่เมืองนอก

โตโน่ เคยโดนคอมเมนต์ด่า ไอ้ลาว เล่าครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กเดินโพย ขัดส้วมที่เมืองนอก

วันที่ 13 ตุลาคม 2565 โตโน่ ภาคิน ได้มาร่วมออกรายการ TurningPoint ของปุ๊กลุก ฝนทิพย์ พร้อมกับเล่าจุดพลิกผันต่าง ๆ ในชีวิตที่เข้ามา จากคนที่ครอบครัวสมบูรณ์ จนพ่อเสียแล้วรู้ว่าที่บ้านมีหนี้จำนวนมาก และกลายเป็นว่าต้องไปทำงานผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ โตโน่เผยว่า แต่ก่อนตนอยู่กับพ่อแม่ มีทุกอย่างในชีวิต ภาพที่จะเห็นตั้งแต่เด็กคือพ่อแม่สร้างชีวิตมาด้วยกัน แต่เกิดจุดพลิกผันที่วันหนึ่งพ่อเสียชีวิต เพราะเส้นเลือดในสมองแตก ตอนนั้นโตโน่อายุประมาณ 9-10 ขวบ แต่ต้องมารับรู้ว่าครอบครัวมีหนี้อยู่ 20 ล้าน ทรัพย์สินในบ้านต้องขาย แม่ต้องใส่เสื้อเก่า ๆ ขาด ๆ ชีวิตมีแต่ความลำบาก จนโตโน่ไปรู้จักกับพนันบอล

ในช่วงแรก โตโน่เล่นพนันบอล 50 / 50 คือ โตโน่แทง 500 บาท ชนะได้มา 250 บาท ทำให้โตโน่แทงอีกคู่แต่กลายเป็นแพ้ ยิ่งแทงยิ่งแพ้ ทำให้รู้แล้วว่าแทงพนันบอลมันไม่มั่นคง แต่สิ่งที่มั่นคงและได้เงินแน่ ๆ คือการเป็นเด็กเดินโพย เช่น สมมุติว่ามีคนอยากแทงบอล 1,000 บาท โตโน่รับเงินมาแล้วนำโพยไปส่งโต๊ะใหญ่ ก็จะได้เงิน 10 บาท คุณจะได้เสียกันเรื่องของคุณ แต่ตนได้เงินแน่นอน

เมื่อถามว่าต้องไปกระทืบคนไหม โตโน่หยุดไปสักพักแแล้วตอบว่า เรื่องนี้มันก็มีค่าที่ต้องจ่าย ถ้าคนที่จะแทงไม่ยอมจ่ายเงินให้เด็กเดินโพย เด็กเดินโพยก็ต้องรับผิดชอบ ก็ต้องหาทางทำให้เขาจ่าย แต่ไม่ใช่ใจร้ายแบบนั้น ตนก็พูดดี ๆ เจรจากับเจา เพราะตนยังอยู่มัธยม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี อย่าเอาเป็นแบบอย่าง แต่ในมุมของตนคือ ถ้าคุณอยากได้เงินเขา คุณก็ต้องกล้าได้กล้าเสีย เช่นถ้าอยากแทง 1,000 บาท แต่ไม่มีเงิน 1,000 บาท แล้วไม่จ่าย ก็เท่ากับไม่รับผิดชอบ อยากได้ก็ต้องพร้อมรับผิดชอบ ถ้าไม่รับผิดชอบก็ต้องมีคนมาเคลียร์

จากนั้นโตโน่ก็ไปที่เยอรมนี ไปทำงานล้างจาน ได้วันละ 20 ยูโร และทำงานขัดห้องน้ำได้เพิ่มอีก 20 ยูโร แต่เวลานอนจะนอนอัดกัน 8 คน มีไม้อัดกั้นห้องละ 2 คน แต่ละคนก็มีชีวิตลำบาก ตอนขัดห้องน้ำก็น้ำตาซึม ไม่มั่นใจว่ามันเหม็นหรือมันเศร้า เวลาที่สุขคือเวลากลับมานอนที่ห้องไม่อัด ว่าวันนี้ได้กี่ยูโรแล้ว จะได้เอาเงินกลับไปอวดแม่

หลังจากนั้นโตโน่ก็กลับมาเมืองไทย ก็เอาเงินที่ได้จากการทำงานที่เยอรมนีมาทำตู้เติมเงิน และเมื่อกลับมาแล้วต้องอยู่ที่นี่ 3 เดือน ต้องรอ 6 เดือนแล้วถึงกลับไปเยอรมนีได้ ซึ่งช่วงนั้นเดอะสตาร์รับสมัคร โตโน่เดินโพยบอลอยู่ ก็มีคนเดินตามมา ตอนแรกคิดว่าเป็นตำรวจ โตโน่ก็เนียน ๆ และเดินไปที่รถ จนคนชักชวนได้เอาใบปลิวมาให้ และบอกว่ามีการประกวดเดอะสตาร์ให้ลองมาดู ตอนนั้นโตโน่คิดว่าเดี๋ยวตนก็ไปทำงานที่เยอรมนีแล้ว เลยไปประกวดสักหน่อยเผื่อได้เจอพี่โจ้ พี่ม้า พี่เพชร โตโน่

หลังจากที่เข้าวงการบันเทิงมาได้ ก็มีคอมเมนต์มาสารพัด ทั้งดีทั้งไม่ดี คอมเมนต์ดี ๆ เช่น โคตรเจ๋งเลยว่ะ แต่ไม่มีใครใครพูดเรื่องร้องเพลงเพราะ ส่วนคอมเมนต์แย่ ๆ เช่น มึงกลับบ้านนอกมึงไปเถอะ ไอ้ลาว จนโตโน่คิดว่า ตนมาประกวดร้องเพลง ต้องไล่ด้วยเหรอ

ความรู้สึกอยากชี้แจงก็มี แต่คอมเมนต์มันเยอะ เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองดีกว่าถ้าต้องมานั่งตอบคอมเมนต์ ตนต้องไปตอบให้เขาเข้าใจทำไมเมื่อตนก็รู้ดีว่าตนทำอะไรอยู่ ถ้าจะด่าตนก็จะบอกว่า ตอนนั้นตนยังไม่เก่งจริง ๆ ตนมาจากบ้านนอกจริง ๆ ตนมาเป็นตัวแทนภาค จนเป็น 1 ใน 8 ตอนนั้นคนต่อแถวเป็นหมื่น คนเก่งกว่าตนตั้งเยอะ มีกี่คนที่เขาเก่งกว่า มีความฝันเหมือนกัน แต่ตนได้ และถ้าตนเข้ามาเพื่อเอาเวลาไปอ่อนไหวกับคอมเมนต์ แทนที่จะพัฒนาตัวเอง ถือว่าตนดูถูกความฝันของเขาไหม ตนมีทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะตนคนเดียว ตนเอาเวลาพวกนั้นไปตอบแทนเขาดีกว่า ไปให้กำลังใจและทำผลงานที่มีคุณภาพ เล่นโชว์อย่างไรให้คนมัน เล่นละครให้คนอิน ดีกว่า

คลิป

คลิปจาก Fonthip Watcharatrakul

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ