กรมอุตุฯเตือนฉบับสุดท้าย อากาศแปรปรวน จังหวัดต่อไปนี้ เตรียมรับมือฝนถล่มหนัก

กรมอุตุฯเตือนฉบับสุดท้าย อากาศแปรปรวน จังหวัดต่อไปนี้ เตรียมรับมือฝนถล่มหนัก

วันที่ 11 ตุลาคม 2565 นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัยลักษณะอากาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2565

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก ลมแรง และอุณหภูมิลดลง รวมถึงดูแลสุขภาพไว้ด้วย สำหรับร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนกลางทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะนี้

ประกาศเตือนอากาศแปรปรวน

สำหรับจังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 11 ตุลาคม 2565

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2565

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.00 น

กรมอุตุนิยมวิทยายังคาดหมายลักษณะอากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า หรือในช่วงวันที่ 11 - 17 ต.ค. 65 ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่างในวันที่ 11 ต.ค. 65 โดยอุณหภูมิลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12 - 13 ตุลาคม 65 มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนใต้ในช่วงวันที่ 13 - 14 ตุลาคม 65 ทำให้ในช่วงวันที่ 14 - 15 ต.ค. 65 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย และขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง

สำหรับพยากรณ์อากาศ ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2565 - 17 ตุลาคม 2565 มีดังนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 11 - 13 และ 16 - 17 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาคในวันที่ 11 ต.ค. 65 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11 - 13 และ 16 - 17 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 14 - 15 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 12 - 17 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 12 - 17 ต.ค. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ