ตู่ ปิยวดี -มาวิน สุดอลังชุดเจ้าสาวมูลค่ากว่า 100 ล้าน
ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย กับค่ำคืนสุดหวานงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของผู้จัดสาว ตู่-ปิยวดี มาลีนนท์ กับดาราหนุ่ม มาวิน ทวีผล ที่งานถูกจัดชึ้น ณ ห้อง เรสซิเดนซ์ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ทั้งคู่ได้เข้าพิธีแต่งงานกันไปเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์ CV -19 จึงต้องเลื่อนออกมา บอกเลยว่าบรรยากาศภายในงานนั้นถูกโอบกอดไว้ด้วยความโรแมนติก และอบอุ่นมากจริง ๆ
ซึ่งในช่วงบ่าย ตู่และมาวิน ได้ควงแขนกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชน หลังจากที่ได้ใช้ชีวิตในฐานะสามี-ภรรยา มาร่วมปีกว่า พร้อมเผยที่มาของความอลังการในส่วนของชุดเจ้าสาวที่ราคาสูงถึง 100 ล้านบาท
วันนี้ฤกษ์ดีฉลองมงคลสมรส ตื่นเต้นไหม?
ตู่ : ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้น แต่ว่าตื่นเต้นมากประมาณหนึ่ง คือตอนหมั้นพิธีการจะค่อนข้างเยอะมาก
มาวิน : พิธีหมั้นจะค่อนข้างเกร็งกว่า แต่วันนี้รู้สึกว่าเหมือนเรามาเจอเพื่อนๆ มาเพื่อเฉลิมฉลอง เพื่อปาร์ตี้ ก็จะรีแลกซ์กว่า
ตู่ : สบาย ๆ แต่ก็ตื่นเต้น เราเว้นไปเกือบ 2 ปีค่ะ เรารอมาสักระยะหนึ่ง มันก็จะเริ่มคลาย จัดได้ 200-300 คน แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเพื่อนเยอะมาก ก็เลยรอให้มันคลี่คลายสุดๆ เพื่อให้ทุกคนมาแล้วก็สบายใจด้วยค่ะ สเกลวันนี้ก็น่าจะประมาณ 800 คนค่ะ
มาวิน : ประมาณ 1 ปี 10 เดือนครับ คือระยะที่โควิดระบาดหนัก ๆ ช่วงนั้นเลย
มีธีมงานไหม?
ตู่ : มีกำหนดแค่ธีมสีอย่างเดียวค่ะ จะเป็นสีออกเขียว เทา เบจ เป็นสีธรรมชาติ ส่วนเราสองคนก็จะเปลี่ยนทั้งหมด 4 ชุดค่ะ ซึ่งจะเป็นแบรนด์ของไทยทั้งหมดเลย เป็นความตั้งใจตั้งแต่ตอนเลือกชุดแต่งงาน ว่าจะให้แบรนด์ไทย เพราะตู่รู้สึกว่าคนไทยน่าจะเป็นคนที่รู้จักสรีระของเรามากที่สุด ถ้าเกิดเป็นของฝรั่ง มันต้องมานั่งแก้โน่นนี่นั่น ถ้าใช้แบรนด์ไทยเขาสามารถปักลายให้มันไปตามทรงเราได้เลย ก็เลยเลือกแบรนด์ไทยทั้งหมดค่ะ คือจะมีชุดนี้หนึ่งชุด แล้วก็ชุดที่ยืนหน้าแบ็กดรอป แล้วก็จะมีชุดที่เดินเข้างาน แล้วก็ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ
เล่าชุดเจ้าสาวมูลค่า 100 ล้าน?
ตู่ : คือตอนที่ตู่เริ่มทำชุดแต่งงาน ก็คุยกับสไตลลิสท์ที่เป็นเพื่อนกัน ก็แชร์ประสบการณ์การปักชุดด้วยเพชรจริง ซึ่งเราไม่เห็นคนอื่นทำ เราได้ไอเดียจากการปักเพชรจริงลงในชุดซึ่งในไทยไม่เคยมี เลยปรึกษาดีไซเนอร์ สรุปใช้ 200 เม็ดขึ้นไป แล้วก็ได้ปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้การเทรดเพชร เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา พอใช้ไปจริง ๆ 200 ไม่พอ เลยเพิ่มเป็น 300 กว่าเม็ด ก็ชุดนั้นชุดเดียวก็มูลค่า 100 ล้านค่ะ
ความตั้งใจของวันนี้?
ตู่ : ตู่ว่างานแต่งงานเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน ตู่เลยอยากจะหาจุดจำ ที่ทุกคนสามารถจำงานเราได้ ก็เลยคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้คนไม่ลืมงานเรา
ตอนเป็นแฟนกับตอนแต่งงาน ชีวิตต่างออกไปแค่ไหน?
ตู่ : ต่างมาก เพราะว่าไม่ได้ทะเลาะกันเลย โทรไปไม่รับสายคือประเด็นใหญ่ที่สุด พอแต่งงานแล้วก็รู้สึกว่าไม่ทะเลาะกันแล้ว ก็คุยกันมากขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเราน่าจะไปอีกสเต็ปหนึ่งที่ไม่พอใจแล้วก็คือเลิก เหมือนเราข้าม เราเลยจุดนั้นมาแล้ว มันเป็นจุดที่เราต้องใช้ชีวิตร่วมกันจริง ๆ แล้ว
มาวิน : ผมมีความสุขทุกเช้าครับ ตื่นมาต้องจับแขนเขา ต้องหอมแก้มเขาทุกวัน ผมมีความสุขมาก แต่คุณตู่จะเป็นคนขี้รำคาญ แต่ถ้าแมวกอดจะถ่ายคลิปมาอวด แต่ถ้าสามีกอดจะรำคาญ
ต้องปรับตัวมากแค่ไหน?
ตู่ : เนื่องจากก่อนแต่งงานเราคบกันมา 17 ปี ตู่กับวินเป็นคู่ที่คุยกันเยอะมาก มีอะไรเราก็จะไม่เก็บ พูดเลยว่าไม่ชอบอันนี้ แก้ได้ไหม ถ้าแก้ไม่ได้เราจะถามตัวเองว่าเราอยู่กับสิ่งนี้ได้ไหม หรือเขาปรับตัวเองได้ไหมเพื่อให้เราอยู่กันได้ ถ้าด่าก็คือด่าเลย ด่าจริง ถ้าเวลาเขาไม่สติก็จะบอกเขาว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาถามว่าฉันพูดอะไรไปบ้าง
ภรรยาดุมาก?
มาวิน : จะเหลือหรือครับ ที่เขาเล่ามานี่คิดว่าเขาใจดีเหรอครับ เขาโชว์ความใจดีอยู่เหรอครับ แต่ดุก็รักมากครับ เชื่อเมียแล้วเจริญ
มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กัน?
มาวิน : เคยให้ไว้ตั้งแต่ตอนยังไม่แต่งงานว่าเขาจะอยู่ข้างผม ผมจะอยู่ข้างเขา แต่พอแต่งงานแล้วรู้สึกว่ามันมีความสุขจัง ทุกวันมันดีกว่าที่เราคิด เหมือนเราโตไปด้วยกัน ทำงานไปด้วยกัน และไม่ต้องแยกจากกันเลย ก็คงจะอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตด้วยกัน แต่ที่อยากตอนนี้คืออยากมีลูก
ตู่ : แต่เราก็คุยกันไว้แล้วว่าถ้าไม่มีเราก็ต้องมีความสุขนะ มีความสุขแบบที่ไม่มี แต่ถ้ามีก็ถือว่าเป็นโชคดีของเรา
วางแผนมีลูกกี่คน?
ตู่ : ตอนนี้ก็ปรึกษาคุณหมอค่ะ ทั้งหมอและหมอดูด้วย เราก็จะเริ่มจริงจังหลังจากงานวันนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้กังวล โควิดด้วย คุณหมอก็บอกว่าเคสเราเป็นเคสที่ยาก เพราะอายุเยอะแล้วและก็ไม่เคยมีแพลนที่จะเก็บไข่ไว้ก่อนเลย เพราะก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าจะได้แต่งงานหรือเปล่า พอมาถึงจุดที่จะต้องเริ่มทำ อายุเราก็ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เลยไปเยอะแล้ว คุณหมอเลยบอกค่อนข้างยาก ก็น่าจะใช้วิทยาศาสตร์หรือทุกวิธี
มาวิน : ใช้ทุกวิธีครับ อยากได้ลูกผู้หญิง
ตู่ : ตอนแรกไม่ได้อยากแฝด แต่ด้วยเวลามันเลยไปเยอะ เราก็รู้สึกว่ามีทีละคนไม่ทัน ก็อาจจะลูกแฝด ต้องปรึกษาคุณหมอก่อนว่าร่างกายเราไหวหรือเปล่า
วางแผนฮันนีมูนที่ไหน?
ตู่ : ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ แต่หลังแต่งงานมีแพลนจะไปญี่ปุ่นสิ้นปีนี้
มาวิน : ส่วนปีหน้าอยากไปยุโรป
อยากพูดอะไรถึงกันและกัน?
มาวิน : คนนี้เหรอครับ ผมโชคดีที่ได้เขามาจริง ๆ เขาน่ารักมาก ผมบอกเลยว่าผมรักเขามากๆ เขาเป็นกำลังใจที่สำคัญให้ผม ใช่เขาดุ แต่เพราะเขาอยากให้เราดีขึ้น เหมือนได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งเมีย ได้ทั้งแม่ ในคนเดียวครบมากเลยครับ 3 in 1 จริงๆ (หัวเราะ) ผมดีใจครับ ผมรู้สึกว่ามีเขาเป็นผู้นำในชีวิตของผม ผมชัดเจนมากครับ ผมมีความสุขมาก ๆ ครับ
รักนะที่รักเนอะ ปีที่ 14 สุดท้ายก็ฝันเป็นจริงเนอะ แล้ววันที่จะเกิดงานนี้ผมบอกเขาเลยว่างานนี้มันต้องเกิดนะ อยากให้เขาตามใจฝัน อยากทำอะไรเต็มที่เลย ผมพร้อมซัพพอร์ต แล้ววันนี้ ผู้ชายคนนี้ทำให้ได้แล้ว มาถึงตรงนี้แล้ว รักนะคะ
ตู่ : อย่างที่บอก ตู่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้แต่งงาน เพราะวันที่เขาขอ คนที่เห็นคลิปจะถามว่าทำไมร้องไห้เร็ว คือน้ำตาหยดเลย ไม่ได้คิดเลยว่าจะมีวันที่เขามาขอเราแต่งงาน รู้สึกว่าตั้งแต่แต่งงานกับเขามา ความสุขในชีวิตเรามันขึ้นง่ายจัง กินข้าวอร่อยมื้อหนึ่งตู่มีความสุขมากเลย รู้สึกว่าความสุขของเราเกิดขึ้นง่ายได้มาก และไม่ต้องดิ้นรนหามัน มันอยู่ข้าง ๆ เรา
ขอบคุณ : tetypeachy , tu_piyawadee