หนุ่มไข้สูงนั่งรอหมอคิวแรกหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ รพ.บอกทนมาได้ตั้ง 3 วัน ให้ทนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในลักษณะไม่พอใจกับการให้บริการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า พาหลานมาหาหมอตั้งแต่ 6 โมงเช้า อาการหลานหนาวสั่น บอกนายไม่ไหวแล้ว มาถึงไม่มีหมอสักคน เห็นแค่คนเข็นเปล เลยถามพี่คะหมอมากี่โมงคะ เขาก็ตอบมา 8-9 โมงครับ เขาถามน้องเป็นมากี่วัน เราตอบ 3 วันค่ะ เขาเลยตอบกลับมาว่าทนมา 3 วันแล้วงั้นก็ทนต่อไป 3 วัน แล้วยังทนได้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ตอบมาได้ไง เราเลยหันมาบอกหลาน งั้นเอ็งก็ตายก่อนแล้วกันหมอมาค่อยตื่นหาหมอ นานเรารอได้นะ ไม่ว่า แต่คำพูดที่ได้ยินมามันไม่น่าฟัง ป่านนี้ก็ยังไม่กลับ บัตรคิวที่1 นะ แจ๋วมาก
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเคยโดนแบบนี้เหมือนกัน จนบางคนต้องเปลี่ยนไปรักษาที่ รพ.อื่น แม้จะเดินทางไกลกว่า
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามรายละเอียดกับผู้โพสต์ คือ น.ส.จรรยาภรณ์ หรือ ก้อย อายุ 34 ปี พร้อมกับหลานชายและหลานสาวซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ไปรับบริการในวันดังกล่าวมาให้ข้อมูลด้วย โดย น.ส.ก้อย บอกว่า เรื่องราวที่ตนเองโพส์ตเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.65) ซึ่งตนเองได้พาหลาน 2 คน คือนายเติ้ล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลานชายซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.6 ซึ่งมีอาการไข้สูงหนาวสั่นและมีหนองในหู และ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี หลานสาวซึ่งเรียนอยู่ ม.3 เป็นไข้น้ำมูกไหลไอเจ็บคอ ไปหาหมอ
ไปถึง รพ.ประมาณ 6 โมงเช้า แต่ไม่มีหมอสักคน มีแค่พนักงานเปลผู้ชาย 1 คน ตนจึงเดินไปถามว่าหมอจะมากี่โมง เขาก็ตอบว่ามา 8-9 โมง แล้วเขาก็ถามว่าน้องเป็นอะไร เป็นมากี่วันแล้วตนก็ตอบไปว่า 3 วันแล้ว พนักงานเปลคนดังกล่าวกลับพูดว่าเป็นมา 3 วันแล้วยังทนไหวก็ทนต่ออีกคงไม่เป็นไร ตนก็รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของ เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพราะตอนนั้นหลานชายก็บอกว่า ผมทนไม่ไหว ถึงกับนอนฟุบกับเก้าอี้ จากนั้นก็รอจนถึง 10 โมงเช้า ถึงได้คิวเข้าตรวจทั้งที่หลานเป็นคิวแรก พอตรวจเสร็จหมอให้นั่งรอรับยาต่อจนถึงเที่ยง
ที่นำเรื่องราวมาโพสต์เพราะอยากให้ปรับปรุงแก้ไขการบริการ มองว่า รพ. ควรจะมีหมอเข้าเวรประจำเผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้น และ เจ้าหน้าที่ไม่ควรใช้คำพูดประชดหรือตะคอกใส่คนไข้ที่เขาเจ็บป่วยแล้วหวังมาพึ่งหมอ
ขณะที่นายเติ้ล ก็บอกว่า ตนเริ่มมีอาการไข้มา 3 วันแล้ว แต่ยังไม่หนักมาก กระทั่งเช้าของวันที่ 7 ต.ค. ก็ไปบอกน้าว่ารู้สึกไม่ไหวเพราะไข้สูง หนาวสั่น น้าจึงรีบพาไปหาหมอ แต่พอไปถึง รพ.ตอน 6 โมงเช้าก็ไม่มีหมอสักคน ต้องรอหลายชั่วโมงจนนั่งไม่ไหวต้องฟุบลงกับเก้าอี้ กระทั่งประมาณ 10 โมง มีผู้ป่วยพยาบาลคนหนึ่งเรียกไปแล้วถามว่าไหนบัตรตรวจเลือด แล้วตะคอกใส่ตนเองว่าบัตรตรวจเลือดอยู่ไหน แต่พอถึงคิวเข้าไปตรวจกับหมอ ก็ใช้เวลาตรวจจริงๆ ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ แล้วให้นั่งรอรับยาต่ออีกจนถึงเที่ยง ตนจนบอกกับน้าว่าไม่อยากรอรับยาแล้วเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั่งไม่ไหวแล้ว แต่สุดท้ายพอได้ยา ก็ได้แค่ยาแก้ไข้และแกอักเสบมากิน ถ้ารู้ว่ารอนานขนาดนี้คงให้น้าซื้อยาที่ร้านให้กินแล้ว
ด้าน นายแพทย์พิเชษฐ พืชขุนทด นายแพทย์สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากรับทราบเรื่องที่มีการโพสต์ในสื่อโซเชียล ก็ได้สั่งการให้ ผอ.รพ.พลับพลาชัย ที่ถูกระบุถึง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากประเด็นอะไร ทำไมถึงเกิดปัญหา มีปัญหาที่กระบวนการไหน การสื่อสารเป็นยังไง เมื่อได้ข้อมูลว่าเกิดปัญหาที่จุดไหน ก็ให้ปรับปรุงแก้ไขภายในองค์กรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก และให้ไปสอบถามพูดคุยกับญาติหรือผู้ป่วยที่มารับบริการที่เกิดประเด็น ว่ามีจุดตรงไหนที่ต้องการให้ทาง รพ. แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อจะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงด้านการให้บริการในระดับพื้นที่ จากนั้นให้สรุปผลรายงานมายังทางสาธารณสุขจังหวัดได้รับทราบต่อไป ซึ่งทางสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อทราบเรื่องก็รีบให้ผู้บริหารในพื้นที่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน