ตายายขับ จยย.ข้ามฝายน้ำล้น ถูกน้ำพัดจมหายยังหาร่างไม่พบ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณฝายน้ำล้นบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ร.ต.อ.อำนาจ แก้วสว่าง ร้อยเวรสอบสวน สภ.โนนคูณ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนจมน้ำหายไปในกระแสน้ำที่บริเวณฝายน้ำแห่งนี้ จำนวน 2 ราย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ธวัชชัย แก้วเบ้า ผกก.สภ.โนนคูณ ทราบ และได้รีบเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า มีญาติพี่น้องและชาวบ้านของผู้ที่จมน้ำหายจำนวนมากได้พากันมาช่วยกันงมหาร่างของทั้ง 2 ราย ซึ่ง ร.ต.อ.อำนาจ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อให้มาช่วยในการค้นหา
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ที่ถูกน้ำพัดหายไปชื่อ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี ชาวบ้านหนองแวงใต้ ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เป็นสามี ภรรยา โดยต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน มาร่วมกันค้นหาร่างของผู้เคราะห์ร้ายท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมาก
ต่อมาเวลา 21.45 น. วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาอำนวยการในการค้นหาร่างของคนที่จมน้ำหายไปในฝายน้ำล้น พร้อมทั้งได้เข้าไปให้กำลังใจแก่ครอบครัวญาติพี่น้องของ 2 ตายาย และได้ประสานงานกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการค้นหาร่าง 2 ตายาย ซึ่งการค้นหาต้องใช้ชุดประดาน้ำในการดำน้ำค้นหา แต่ปรากฏว่า กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมากและความมืด ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหาเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้หยุดทำการค้นหา และจะได้ทำการประเมินสถานการณ์โดยจะมาทำการค้นหาใหม่ในรุ่งเช้าวันใหม่
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี 2 สามีภรรยา ได้พากันเดินทางกลับมาจากการเลี้ยงหลานให้ลูกชายที่บ้านหนองกุง จากนั้นได้พากันขับขี่รถ จยย.เพื่อเดินทางกลับบ้านที่บ้านหนองแวงใต้ โดยมีนายสุวรรณ เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง หมายเลขทะเบียน 1 กฮ 306 เชียงใหม่ มีนางข่อง ซึ่งเป็นภรรยานั่งซ้อนท้ายมาด้วย เพื่อที่จะข้ามฝายน้ำล้นหนองแวงเดินทางกลับบ้าน
แต่ปรากฏว่า ระดับน้ำที่ไหลผ่านฝายน้ำล้นสูงมาก อีกทั้งกระแสน้ำไหลค่อนข้างเชี่ยวกราก นายสุวรรณ ได้ขับรถ จยย.ลงไปในฝายน้ำล้นเพื่อข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม แต่ว่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้พัดเอาร่างของ 2 ตายายพร้อมด้วย จยย.จมหายไปต่อหน้ากลุ่มเด็กจำนวนหนึ่งที่พากันมาเล่นน้ำที่ฝายแห่งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านได้ระดมกันค้นหาตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 - 22.00 น. ก็ยังไม่พบร่างผู้ที่จมน้ำหายไป พบเพียง รถ จยย.ที่ 2 ตายายขับมาจมอยู่ใต้น้ำเท่านั้น
ทางด้าน น.ส.หวาน ศิรินภา อายุ 27 ปี หลานสาวของ 2 ตายายที่จมน้ำหายไป กล่าวว่า บริเวณฝายน้ำล้นแห่งนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ตนขอฝากถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ชีวิตคนมีค่า บริเวณฝายน้ำล้นแห่งนี้ควรที่จะมีอุปกรณ์ในการรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านด้วย เช่น หลักวัดระดับน้ำ สะพานแขวน หรือรั้วกั้น เพื่อป้องกันอันตรายให้กับชาวบ้านที่ผ่านไปมาบริเวณนี้ ตนอยากให้กรณีของปู่และย่าของตนเป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่น ๆ อีกต่อไป