จ่อขายเลข 3 ตัว ปีหน้า เคาะราคาใบละ 50 1 ใบลุ้น 4 รางวัล ถูกโต๊ดก็ได้เงิน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งในวันที่ 29 ก.ย. จะมีวาระพิจารณาสำคัญ 3 เรื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ดังนี้
1. มาตรการระยะสั้น แก้ไขปัญหากรณีการทะเลาะของผู้มีสิทธิ์ซื้อ-จองสลากที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจะมีมาตรการออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยระหว่างนี้ ขอให้ผู้มีสิทธิ์เลือกทำรายการจอง-ซื้อ ผ่านเน็ตแบงก์ และ แอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งปัจจุบัน มีสัดส่วนผู้ได้สลากกว่า 90% ของจำนวนผู้ได้รับสลากไปขายกว่า 1 แสนรายในแต่ละงวด การจองผ่านตู้เอทีเอ็มมีเพียง 10% เท่านั้น
2. พิจารณาแนวโน้มการเพิ่มสลากดิจิทัลเข้าสู่ระบบ โดยในงวดวันที่ 16 ต.ค. จะมีสลากดิจิทัลขายรวม 14 ล้านใบ จากงวดปัจจุบัน 13 ล้านใบ ซึ่งใช้เวลาขายมากกว่า 8 วัน โดยอาจพิจารณาชะลอการเพิ่มสลากไม่ถึงกรอบ 20 ล้านใบ และไปพิจารณาอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่คาดว่ากำลังซื้อของประชาชนจะเริ่มฟื้นกลับมา ทั้งจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
3. นำเสนอผลรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับ ประชาพิจารณ์ สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก ซึ่งจากการรับฟังความเห็นได้รับผลออกมาในเชิงบวก ทั้งจากกลุ่มผู้ค้า ประชาชนผู้ซื้อ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ก็จะต้องมีการประชุมในวันที่ 29 ก.ย. เพื่อพิจารณา รูปแบบ วิธีการ แนวทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะช่วยเสริมการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้มีราคา 80 บาท ตามกรอบกฎหมาย
อย่างไรก็ดี หลังจากมีการขายสลากดิจิทัล ในส่วนของสลากใบ ก็มีกลไกในการปรับตัวของกลุ่มค้าส่ง ค้าปลีก ที่ส่งผลให้ราคาสลากแบบใบไม่ได้ถูกลง เนื่องจากในตลาดขายส่ง ปริมาณขายส่งหายไป 13-14 ล้านใบมาขายผ่านดิจิทัล จึงทำให้ตลาดขายส่งมีราคาแพง และทำให้ราคาขายปลีก ทั้งผ่านแพลตฟอร์ม และ ขายแบบใบ ราคายังคงเกิน 100 บาทต่อใบ แต่แรงกดดันผู้ซื้อเรื่องราคา 80 บาทหายไป เพราะคนยังไม่พร้อมซื้อสลากดิจิทัล
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับแนวทางสลากเลข 3 หลัก ในระยะยาวต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ จากการประชาพิจารณ์ผลออกมาเชิงบวก ทั้งจากผู้ค้า ผู้ซื้อ และผู้มีส่วนได้เสีย หลังเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 29 ก.ย. หากเห็นชอบ ตั้งแต่เดือน ต.ค. จะเสนอตามสายงาน และเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ประกาศเป็นรูปแบบ ประเภทสลากแบบใหม่ ได้ในช่วงต้นปี 2566 และคาดว่าจะสามารถขายงวดแรก ได้ก่อน หรือภายในเดือน ก.ย. 2566
สำหรับรูปแบบการจ่ายเงินรางวัลเบื้องต้น ราคาจำหน่ายสลากคาดว่าจะอยู่ที่ใบละ 50 บาท จ่ายเงินรางวัลแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อ แต่จะอยู่ในกรอบกฎหมายสำนักงานสลาก ที่กำหนดให้จ่ายเงินรางวัล 60% ของยอดจำหน่าย โดยการซื้อสลาก 1 ใบ สามารถลุ้นได้ 4 รางวัล คือ 1.รางวัล 3 ตัวตรง คาดว่าจะจ่ายเงินรางวัลขั้นต่ำได้ที่ บาทละ 200 บาท 2.รางวัล 3 ตัวสลับหลัก หรือ 3 ตัวโต๊ด คาดว่าจะจ่ายเงินรางวัลขั้นต่ำได้ที่ บาทละ 100 บาท 3.รางวัล 2 ตัว คาดว่าจะจ่ายเงินรางวัลขั้นต่ำได้ที่ บาทละ 50 บาท และ 4.รางวัลแจ็คพ็อต จ่ายเงินรางวัล 1% ของ 60% จากยอดขายสลากในแต่ละงวด
การจ่ายเงินรางวัลสลากแบบเลข 3 ตัว โดยเฉพาะเลข 3 ตัวตรงต้องมีความจูงใจมากพอ จึงจะสามารถแข่งกับหวยใต้ดินได้ ซึ่งหวยใต้ดิน จ่ายรางวัล 3 ตัวตรงที่บาทละ 500 บาท การกำหนดขั้นต่ำที่บาทละ 200 บาท คนซื้อมีสิทธิ์จะได้เงินรางวัลสูงกว่านั้น ถ้าหมายเลขที่ซื้อ มีจำนวนคนซื้อไม่สูงมาก แต่ถ้ามีคนซื้อเลขเดียวกันมาก ๆ จนถึงระดับที่ได้เงินรางวัลบาทละ 200 บาท ระบบก็จะมีการปิดการจำหน่ายชั่วคราว จนกว่าปริมาณการซื้อทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น จึงจะสามารถกลับมาแทงเลขดังกล่าวได้