ลูกชาย 61 พาแม่วัย 85 ปั่นจักรยานออกจากบ้าน หลังน้องสาวแท้ๆ ไล่ออกจากบ้านกลางดึก
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 20 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายจิรวัฒน์ ปานอุไร อายุ 36 ปีโชเฟอร์แท็กซี่พลเมืองดี ว่าพบเห็น 2 แม่ลูกที่มีอายุมากแล้ว มาขอความช่วยเหลือจะเดินทางกลับ จ.สุพรรณบุรี พร้อมรถจักรยาน 1 คัน แต่ตนไม่สามารถนำพาไปได้ โดยอยู่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทางปากซอยบ้านกล้วย-ไทรน้อย ถนนกาญจนาภิเษกขาออก ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง ทางผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุและให้การช่วยเหลือ
หลังจากเดินทางไปถึงบริเวณป้ายหยุดรถประจำทางพบ นายระพีพงษ์ อายุ 61 ปี และนางมาลัย อายุ 85 ปี พร้อมรถจักรยาน 1 คันจอดอยู่ซึ่งทั้ง 2 เป็นแม่-ลูกกัน หลังจากสอบถามถึงที่มาที่ไป นายระพีพงษ์ กล่าวว่า ตนเองและแม่ได้เดินทางมาจากบ้านน้องสาวที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังจากมีปัญหาภายในบ้าน โดยปกติตนเองและแม่อาศัยอยู่กับน้องสาวมาหลายปีแล้ว แต่ก็มีเรื่องราวต้องทะเลาะมีปากมีเสียงกันบ่อยครั้ง
โดยหลายครั้งน้องสาวถึงกับเอ่ยปากไล่แม่ จนกระทั่งวันนี้ก็มีปัญหากันอีก โดยน้องสาวก็เอ่ยปากไล่อีกครั้ง ตนเองจึงไม่พอใจและน้อยใจที่น้องสาวชอบดุและไล่ออกจากบ้านหลายครั้ง วันนี้เลยตัดสินใจพาแม่ออกจากบ้านน้องสาว โดยที่ปั่นรถจักรยานพาแม่ซ้อนท้ายออกมา ปลายทางจะขอกลับบ้านเกิดที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
แต่หลังจากปั่นจักรยานมาได้ร่วม 10 กิโลเมตร รถจักรยานเริ่มมีอาการไม่ค่อยดี จึงตัดสินใจหาโบกรถที่ผ่านไป-มา จนกระทั่งมีพลเมืองให้อาศัยติดรถมาลงที่ปากทางซอยวัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง
หลังจากนั้นจึงปั่นจักรยานต่อเพื่อไปยังปลายทาง จ.สุพรรณบุรี แต่ด้วยเวลาที่มืดแล้วทำให้ต้องจอดพักบริเวณป้ายรถประจำทาง ปากทางถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย และสังเกตเห็นรถแท็กซี่จึงไปขอความช่วยเหลือ เพื่อจะขอให้ไปส่งที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี แต่ไม่สามารถไปได้ กระทั่งโชเฟอร์แท็กซี่มีการประสานขอความร่วมมือไปยังกู้ภัย
นายจิรวัฒน์ โชเฟอร์แท็กซี่ กล่าวว่า ในระหว่างที่ตนเองจอดรถรอผู้โดยสารอยู่ คุณลุงได้เดินมาเคาะกระจกรถพร้อมกับเอ่ยปากขอให้ช่วยพาตัวคุณลุงและแม่ไปส่งที่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีรถจักรยานด้วย 1 คัน ซึ่งตนเองไม่สะดวกจะเดินทางไปเนื่องจากมีรถจักรยาน จึงได้ประสานไปยังสมาคมกู้ชีพบัวเพชรนนทบุรี ให้เข้ามาช่วยเหลือ