โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของเพลง นะหน้าทอง ยอมทิ้งอาชีพครู ผันตัวเป็นนักร้อง เพลงดัง 100 ล้านวิว
กลายเป็นนักร้องดังไปแล้ว สำหรับ โจอี้ ภูวศิษฐ์ กว่าจะมาเป็นเจ้าของเพลงฮอต 100 ล้านวิว นะหน้าทอง ชีวิตเขาไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัดสินใจทิ้งอาชีพรับราชการครูมาทำตามฝันการเป็นนักร้อง เข้าวงการให้ครอบครัวภาคภูมิใจ ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม ถึงความสำเร็จของเขาในวันนี้
3 เดือน 100 ล้านวิว รู้สึกยังไง?
ก็เป็นปรากฏการณ์ในชีวิตเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือในชีวิตเราเลย เพราะเราก็เพิ่งจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยจะมีผู้ติดตามมีชื่อเสียง และพอเพลงนี้เหมือนมันพลิกจากเมื่อก่อนที่เราไม่ได้เป็นที่รู้จัก ตอนนี้ นะหน้าทอง ก็ทำให้เป็นที่รู้จักเกินความคาดหมายไปมากถือว่าเร็วมากสำหรับเรา เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน จนมีคนต่างชาตินำไปคัฟเวอร์ด้วย
กระแสตอบรับดีมาก?
ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนขอให้เราร้องเพลงนี้ จนตอนนี้คิวงานยาวมาก ยาวไปจนถึงปีหน้าเลย ซึ่งเพลงนี้สายมูก็จะชอบเป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของเราก็มูด้วยด้วยการเปลี่ยนชื่อตอนเข้าวงการแรกๆ จาก จักรกฤษ ขำจิต และเปลี่ยนเป็น ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ต้องลงมือทำด้วยมันต้องควบคู่กัน ส่วนคนที่แนะนำให้เราไปมูเตก็คือมาดามาริสา พาไปเปลี่ยนเราก็ต้องดูก่อนว่าทำไมชื่อเดิมถึงใช้ไม่ได้
ก่อนหน้านี้ทำอาชีพครู?
ก่อนที่เราจะมาเป็นนักร้อง เราก็ทำอาชีพครูมาก่อน ซึ่งเด็กๆ ก็จะชอบพูดว่าวันๆ เราไม่ได้สอนเลย เล่าแต่นิทานให้ฟัง ส่วนมากเราก็จะให้เด็กทำกิจกรรมก่อนเรียนอย่างเช่นเล่านิทานให้เด็กๆฟัง ก็เลยชอบ ตอนนี้ขอเบรกอาชีพครูไว้ก่อน เพราะว่าเริ่มหนักอาชีพร้องเพลงแล้ว เหมือนกลายเป็นว่าสิ่งที่เราทำตอนนี้เราถนัดสุดแล้วคือการร้องเพลง
เหมือนเราได้เป็นตัวเองจริงๆ พอไปประกวดร้องเพลงที่เดอะวอยซ์ ได้ร้องเพลงที่เราอยากทำ และพอได้ทำจริงๆ ตอนไปช่วงแรก ฝันของเราคือการได้ออกทีวีให้ยายเห็น ซึ่งยายคงจะดีใจถ้าได้เห็นเราอยู่ในทีวี แต่พอไปจริงๆ แล้วอยู่ในรอบลึกมันไม่ธรรมดาแล้ว เพราะคิดว่าเราไปต่อได้ แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหน เพราะเราไม่ได้เซ็นสัญญา ซึ่งคุณยายก็ได้เห็นตามที่เราตั้งใจไว้แล้ว ในตอนนี้เค้าก็ปลื้มใจ ส่วนคุณแม่ก็ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่
พูดกับคุณแม่ว่ายังไง หลังตัดสินใจเลิกอาชีพครูมาเป็นนักร้อง?
ผมกับแม่และตากับยาย ที่บ้านเราก็อยู่กันแค่นี้ เค้าก็ถาม ซึ่งเขาก็เปิดใจยอมให้เราเป็นเลย อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้ค้าน โชคดีที่เค้าสนับสนุน ดีใจมาก เค้าเป็นคนสบายๆ ทุกวันนี้เค้าภูมิใจกับเรามากแค่ไหนก็ไม่เคยถาม แต่ว่าเราจะทำให้แม่ภูมิใจมากกว่า ซึ่งเขาก็ทำให้เห็นมาตลอด ด้วยการที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ก็ดูแลทั้งหมดทั้งบ้าน
ที่มา รายการโต๊ะหนูแหม่ม