พ่อแม่ พาลูกท่องโลก 1 ปี ก่อนเด็ก 3 คนสูญเสียการมองเห็น
ภาพของครอบครัว 6 คนที่พากันออกเดินทางไปสำรวจความสวยงามยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น นับเป็นภาพงดงามและเป็นเหมือนความฝันของใครหลาย ๆ อย่างไรก็ตาม การเดินทางของพ่อแม่ที่พาลูก ๆ ทั้ง 4 คนออกไปท่องโลกกว้างนี้ แฝงไว้ด้วยความหมายที่มากเกินกว่าแค่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะนี่คือทริปแห่งการเติมเต็มภาพความทรงจำอันงดงามแก่ลูก ๆ ก่อนที่เด็ก 3 ใน 4 คน จะสูญเสียการมองเห็นไป
วันที่ 13 กันยายน 2565 เว็บไซต์ Ladbible รายงานว่า ด้วยโรคพันธุกรรมที่หาได้ยาก ทำให้ลูก 3 คนของ อีดิธ เลอเมย์ กับ เซบาสเตียน เพลเลเทียร์ กำลังนับถอยหลังก่อนถึงวันที่พวกเขาจะสูญเสียการมองเห็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยพบว่า มีอา ลูกสาววัย 12 ปี พร้อมกับ โคลิน และ โลรองต์ ลูกชายวัย 7 และ 5 ขวบ ต่างก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจอประสาทตามีสารสี (Retinitis pigmentosa) หรือที่เรียกว่าโรค RP ตั้งแต่ปี 2562 ในขณะที่ ลีโอ ลูกชายคนรองยังไม่พบว่าเป็นโรคดังกล่าว
โรค RP เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะเจาะจง และการมองเห็นของผู้ป่วยจะเสื่อมลงอย่างช้า ๆ จนทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากตาบอดอย่างสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยกลางคน ดังนั้นเมื่อแพทย์ของลูกสาวคนโตแนะนำให้เด็กหญิงพยายามเก็บภาพความทรงจำไว้ ผู้เป็นแม่ก็ตัดสินใจวางแผนการเดินทางครั้งใหญ่ เพื่อลูก ๆ ของเธอ
เลอเมย์ เผยว่า พวกเธอไม่รู้ว่าสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นเร็วแค่ไหน แต่คาดว่าพวกลูกอาจจะตาบอดได้เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ดังนั้นเธอจึงอยากเติมเต็มความทรงจำของลูก ๆ ด้วยภาพที่งดงามที่สุด ในขณะที่พวกเขายังคงมองเห็นอยู่
"ในความคิดของฉัน ฉันจะไม่เพียงแค่โชว์รูปช้างให้หนังสือให้ลูกดู แต่ฉันจะพาลูกไปดูช้างของจริงค่ะ ฉันจะเติมเต็มความทรงจำของลูกด้วยภาพที่ดีที่สุด งดงามที่สุด เท่าที่ฉันจะสามารถทำได้" เลอเมย์ กล่าว
ด้วยเหตุนี้คู่รักจากเมืองควิเบก ในประเทศแคนาดา จึงเริ่มวางแผนทริปท่องโลกยาวนาน 1 ปีเต็ม เพื่อพาลูก ๆ ออกไปเผชิญโลกกว้างร่วมกัน โดยแม้ว่าแผนเดิมของพวกเขาจะล่มไปเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด 19 แต่ในที่สุดทั้ง 6 คนพ่อแม่ลูกก็สามารถเริ่มต้นการผจญภัยได้ในเดือนมีนาคม 2565 โดยมีจุดหมายแรกคือประเทศนามิเบีย
การเดินทางของครอบครัวนี้ ไม่ได้มีเพียงการเที่ยวชมทิวทัศน์อันสวยงาม แต่พวกเขายังใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมตาม ๆ ตามบักเกตลิสต์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การขี่ม้า ไปจนถึงการออกสำรวจหมู่บ้านร้าง
ด้าน เพลเลเทียร์ ผู้เป็นพ่อ เปิดใจว่า แม้จะมีสิ่งดี ๆ มากมายที่เราทำได้ที่บ้าน แต่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเดินทางแล้ว เพราะไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับทัศนียภาพต่าง ๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังจะได้พบเจอวัฒนธรรมและผู้คนที่แตกต่าง
ในตอนนี้ทั้งครอบครัวยังไม่ได้แผนจะเดินทางกลับบ้านไปอีกอย่างน้อยครึ่งปี และพวกเขาก็กำลังใช้ช่วงเวลาดี ๆ อยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังสิ้นสุดทริปเยือนมองโกเลียด้วยกันมา