อนุมัติแล้ว ขับรถเร็ว-ฝ่าไฟแดง ต้องไปจบที่ศาล หลังออกใบนัดภายใน 3 วัน
ครม. ไฟเขียวตั้งแผนกคดีจราจร เตือนสายแหกกฎ ไม่มีใบขับขี่-ขับรถเร็ว-ฝ่าไฟแดง ไม่ออกใบสั่ง แต่ออกใบนัดขึ้นศาลภายใน 3 วัน ส่วนพวกเมาแล้วขับ ส่งดำเนินคดีอาญาทันที
ล่าสุด (6 กันยายน 2565) ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานว่า น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีจราจร พ.ศ. ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ เพื่อให้การพิจารณาคดีจราจรเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีสาระสำคัญ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 ความผิดจราจรบางฐานที่กำหนดไว้เฉพาะ
- ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่
- ขับรถในระหว่างใบขับขี่ถูกพักใช้ เพิกถอน หรือหมดอายุ
- ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร
- ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด
ร่าง พ.ร.บ. นี้ กำหนดห้ามไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับหรือออกใบสั่งแก่ผู้ฝ่าฝืน แต่ให้ผู้นั้นไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกใบนัดให้ผู้นั้นไปศาลต่อไป กลุ่มที่ 2 ความผิดอื่นที่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ ตามกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้
- กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
- กฎหมายว่าด้วยขนส่งทางบก
- กฎหมายว่าด้วยทางหลวง
- กฎหมายว่าด้วย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น หากผู้กระทำผิดไม่ยอมให้เปรียบเทียบปรับ หรือไม่ยอมจ่ายค่าปรับ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกใบนัดให้ผู้นั้นไปศาลต่อไป
กลุ่มที่ 3 ความผิดนอกจากกลุ่มที่ 1 และ 2 ที่มีความร้ายแรง
- ความผิดฐานเมาแล้วขับ
กำหนดให้สอบสวนและดำเนินกระบวนพิจารณาคดีตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงแล้วแต่กรณี โดยศาลอาจกำหนดมาตรการลงโทษตาม พ.ร.บ. นี้เพิ่มเติมแก่ผู้กระทำความผิดได้
เงื่อนไขคดีความกับใบนัดศาล
- คดีจราจรกลุ่มที่ 1 และ 2 ให้พนักงานสอบสวนส่งคู่ฉบับใบนัดให้ศาลภายใน 3 วันนับแต่วันที่ออกใบนัด
- หากผู้ต้องหายอมชำระค่าปรับ ก็ให้คดีเป็นอันเลิกกัน และในวันที่มาศาล
- หากจำเลยรับสารภาพ ศาลพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานก็ได้
- ถ้าจำเลยไม่ยอมให้การหรือให้การปฏิเสธ ให้ศาลใช้ดุลพินิจว่าหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอให้ศาลพิพากษาคดีทันที ถ้าไม่เพียงพอให้นัดสืบพยานต่อไป
- ศาลมีอำนาจใช้มาตรการลงโทษแก่จำเลยซึ่งมีความผิดนอกจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายเรื่องนั้น ๆ ได้ เช่น ยึด พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ ให้เข้ารับการศึกษาอบรมด้านการจราจร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม รองโฆษกฯ กล่าวว่า ในลำดับต่อไปจะส่งร่าง พ.ร.บ. นี้ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาโดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส