หญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวที่น่าตกใจใน Reddit หลังเพิ่งรู้ว่าแฟนหนุ่มที่คบกันมานาน 6 ปี เป็นพี่ชายแท้ๆ ของตัวเธอเอง และบอกว่าโลกของเธอไม่เหมือนเดิมอีกเลยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยเธอระบุว่า ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันคบกับพี่ชายแท้ๆ ของฉันมา 6 ปี แล้ว

ฉันอายุ 30 และพี่ชายอายุ 32 ปี และฉันจะเรียกเขาว่าเป็นแฟนในขณะที่พิมพ์ข้อความนี้

หญิงสาว ระบุว่า เธอเพิ่งรู้ว่าถูกรับมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนยังเป็นทารก และเพิ่งมารู้ความจริงตอนเรียนอยู่มัธยมปลาย เช่นเดียวกับแฟนหนุ่มของเธอที่ถูกครอบครัวรับไปเลี้ยงดูเช่นกัน ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงทั้งคู่ ในตอนที่คบกันแรกๆ

เราทั้งคู่เพิ่งมารู้ว่าถูกครอบครัวรับมาเลี้ยงตอนอยู่มัธยม และเราทั้งคู่โชคดีที่มีครอบครัวที่ดี และไม่ได้ถูกส่งต่อไปบ้านอุปถัมภ์ต่างๆ

หญิงสาว เล่าต่อว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มเป็นไปด้วยดี ทั้งสองเข้าใจกันเร็วมาก และรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว และเธอไม่เคยพบใครที่ดึงดูดใจและรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเขา

ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความสบายใจและความคุ้นเคย เป็นเพราะเขาเป็นพี่ชายของฉัน

ระหว่างคบหากันนั้น ทั้งสองปฏิบัติตัวเหมือนเป็นคู่รักปกติ มีเซ็กซ์ ฉลองวันครบรอบ บอกรักกัน และไปพบปะครอบครัวของกันและกัน และยังมีความคิดเห็นตรงกันว่าไม่ต้องการที่จะมีลูก

หญิงสาวผู้โพสต์ เปิดเผยต่อว่า เธอพบความจริงที่น่าตกใจดังกล่าว หลังจากเข้าร่วมการตรวจ DNA เพื่อค้นหาครอบครัวที่แท้จริงของพวกเขา ซึ่งในตอนแรกเธอตื่นเต้นมาก ก่อนจะตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าเธอและแฟนหนุ่มเป็นพี่น้องกัน ซึ่งเธอเพิ่งทราบข้อมูลนี้ และยังไม่ได้บอกแฟนหนุ่ม

แม้จะตกใจกับผลผลลัพธ์ที่ได้ แต่หญิงสาวก็บอกว่าก็สมเหตุสมผลดี เพราะก่อนหน้านี้มีหลายคนบอกว่าพวกเขา หน้าเหมือนกัน ซึ่งเธอยืนยันว่ายังรักเขาอยู่

เรามีบ้านอยู่ด้วยกัน และมีชีวิตที่สะดวกสบาย ฉันหวังว่าการทดสอบนี้จะผิด และจะทำการทดสอบอีกครั้งในไม่ช้า แม้ฉันจะตื่นตระหนก แต่ฉันยังคงเห็นเขาเป็นความรักในชีวิตของฉัน

โพสต์ดังสร้างความตกตะลึงให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก และรู้สึกประหลาดใจที่มีคนยอมรับเรื่องนี้ และเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ ฉันไม่สามารถเอาเรื่องนี้ออกจากหัวได้, มีคนอยู่ 7 พันล้านคนบนโลกนี้ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และ นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้

ล่าสุด หญิงสาวอัปเดตว่า เธอได้โชว์ผลทดสอบ DNA ดังกล่าวกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเขารู้สึกตกใจไม่น้อย แต่ก็พยายามควมคุมสติ เพราะยังไม่อยากเปลี่ยนแปลงหรือตัดสินใจครั้งใหญ่ใดๆ จนกว่าที่จะได้ไปตรวจทดสอบอย่างจริงจังด้วยกันใหม่ และตอนนี้เธอก็ยังนอนอยู่ข้างเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆ