อ้อยใจ แดนอีสาน จากสูงสุดสู่สามัญ เข็นสามล้อขายยำแหนมประทังชีพ
เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่นอกจากจะสร้างสีสันให้แก่วงการบันเทิงได้อย่างมากมายแล้ว ชีวิตของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยความเข้มข้นจริงๆ สำหรับอดีตนักร้องลูกทุ่ง หมอลำ อย่าง อ้อยใจ แดนอีสาน เจ้าของอัลบั้ม ลูกทุ่งเบรกแตก อันโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน
จากนักร้องคนดังมีค่าตัวเป็นแสนๆ วันนี้กลับต้องมาเป็นแม่ค้ารถเข็น เปิดแผงขายยำแหนมตามตลาดนัด บางวันก็แทบไม่มีจะกินหลายคนอาจจะมองว่ามันคือชีวิตที่ตกต่ำ แต่สำหรับเจ้าตัวกลับหาได้รู้สึกเช่นนั้นแต่อย่างใด
เรื่องขายยำมานานแล้ว ขายตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว เป็นนักร้องก็ขายอยู่…ถามว่าเราคิดอะไรมากไหม
เป็นนักร้องแต่ไปขายยำ คือไม่ได้คิดมาก เพราะชีวิตเราเป็นแบบนี้มาโดยตลอด ตอนดังก็ยังเดินดินกินข้าวแกงข้างทาง
ไม่ว่าเราจะรวยหรือจะจนยังไง อีกอย่างพี่น้องเราก็จากไปหมดแล้ว เวลาเราทำงานมาได้ก็จะเอาเงินไปแจกเด็ก แจกพ่อแม่ที่ยากจน
แล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยหาใหม่ เป็นคนแบบนี้แหละถึงไม่มีเงินเก็บอะไร เป็นคนทำบุญตลอด เป็นผู้ให้ตลอด
แต่ไม่ชอบเป็นผู้รับนะ เพราะรับไม่เป็น แต่บางทีให้จนเราเองก็ไม่มีจะกินนะ?เรามันปากเดียว ท้องเดียว เรากินน้ำพริกปลาทูก็ได้
โดดเดี่ยวเพราะว่าไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง คือแต่ก่อนทุกคนอยู่ร่วมชายคาด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกัน แต่ว่าตอนนี้เขาจากไปทีละคน
ทุกคนมีหล่นแน่นอน แต่ว่าเราจะรับได้ไหมว่าเมื่อก่อนเราเคยโด่งดัง แต่ตอนนี้ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ คือคนเราทำอะไรก็ได้อย่าไปสร้างภาระให้กับสังคม
อย่าไปยืมตังค์เขา เรามีสองมือของเรา เราทำอะไรก็ได้ให้มันเด็ดๆ ดีๆ มันก็จะภูมิใจ อย่างบางทีเข้าไปให้อาหารสุนัข เราก็จะพูดกับเขาว่าแม่จะหมดเงินแล้วนะ
จะไม่มีเงินใช้ซื้อข้าวให้หนูกินแล้วนะ คือพูดกับสุนัขตอนที่เราไปให้อาหารตอนตี 1 บอกว่าขอให้มีงานเข้ามาดลจิตดลใจให้เขาเมตตา สงสารแม่นะ แม่จะได้มีเงินซื้อข้าวให้ลูกกิน
ต้องยอมรับว่า ตอนเป็นนักร้อง เราก็รู้ไม่แน่นอน ก็ต้องกลับมายึดอาชีพเดิม ขายยำแหนม จะไปทำงานนั่งโต๊ะอะไรก็ไม่ได้ เพราะความรู้ไม่มี จบป.4 ส่วนเงินที่หาได้ จะเอาไปทำบุญหมด