วันที่ 29 สิงหาคม 2565 เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานเรื่องราวร้องเรียนจาก นางเล็ก อายุ 59 ปี เผยว่า นายนราวิชญ์ อายุ 15 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังใน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ถูกครูผู้สอนสั่งลงโทษด้วยการทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง จนลูกชายเกิดอาการกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบ และติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนจะตรวจพบว่าลูกมีฝีขึ้นที่บริเวณข้อพับต้นขาซ้าย ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้งและต้องพักฟื้นนานกว่า 2 เดือน แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษและโรงเรียนต้นสังกัดยังไม่มีการเข้ามาดูแลเยียวยาช่วยเหลือ

แม่ของเด็ก เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนลูกชายบอกว่าถูกครูผู้สอนซึ่งเป็นครูผู้หญิง สั่งลงโทษเนื่องจากไม่ยอมเข้าเรียน โดยสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง 200 ครั้ง จึงไปซื้อยานวดมาทาและซื้อยาแก้อักเสบมาให้ลูกชายกิน แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 7 วัน กระทั่งมีการส่งตัวมาตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเลาขวัญ จึงพบว่า ลูกมีติดเชื้ออย่างรุนแรงจนต้นขาบวมและมีฝีขึ้นบริเวณข้อพับต้นขาซ้าย ต้องทำการผ่าตัด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่พบว่ายังคงมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด จึงต้องทำการผ่าตัดครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้องหยุดเรียนนานกว่า 2 เดือน

ด้าน น.ส.เสาวณี ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าครูสั่งลงโทษเพราะเด็กโดดเรียนในคาบ ซึ่งการลงโทษด้วยการลุก-นั่ง เป็นข้อตกลงระหว่างครูและนักเรียน โดยครูผู้สอนยืนยันว่าสั่งทำโทษเด็กไปจำนวน 150 ครั้ง และให้เพื่อนในห้องเป็นคนนับจำนวนกันเอง หวังให้เด็กหลาบจำไม่กล้าโดดเรียนอีก ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กบาดเจ็บ

หลังครูทราบเรื่องได้พาเด็กไปพบหมอที่คลินิกด้วยตนเอง ซึ่งครูรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด นอกจากนี้ ระหว่างที่เด็กพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ครูผู้สอนและผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ไปเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกันนี้ ทางผู้อำนวยการโรงยืนยันว่า ได้สั่งยกเลิกการลงโทษเด็กโดยการทำท่าลุก-นั่งอย่างเด็ดขาดแล้ว เนื่องจากการลงโทษดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระเบียบของสถานศึกษาและอาจเสี่ยงทำให้เด็กบาดเจ็บได้

จากการตรวจสอบพบอีกว่า ในวันดังกล่าว นอกจากเด็กชายนราวิชญ์แล้ว ยังมีเด็กคนอื่นที่ถูกสั่งลงโทษด้วยวิธีการเดียวกัน แต่ไม่มีเด็กคนใดที่มีอาการป่วยในลักษณะดังกล่าว เบื้องต้นครูผู้และคณะผู้บริหารสถานศึกษา ได้พูดคุยกับผู้ปกครองแต่ยังไม่สามารถตกลงกันในส่วนของเงินค่าเยียวยาได้ เนื่องจากทางพ่อและแม่ของเด็กเรียกร้องเงินเยียวยาและเงินค่าขาดรายได้ที่ต้องหยุดงานมาดูแลลูก กว่า 2 เดือน รวมเป็นเงิน 250,000 แสนบาท แม้จะมีการต่อรองกันจนเหลือ 150,000 บาท แต่ทางครูผู้สั่งก็ไม่มีเงินพอ จึงมอบเยียวยาเบื้องต้นให้ 30,000 บาท แต่ทางพ่อแม่ของเด็กยังไม่ยอมรับและยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เกี่ยวกับเรื่องคดีความนั้น ตำรวจภูธรเลาขวัญ เผยว่า พ่อแม่ของเด็กชายนราวิชญ์ เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูผู้สั่งลงโทษ ในความผิดฐาน ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ขณะนี้อยู่ในระหว่างให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและเจรจาถึงค่าเยียวยาต่อกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้, ThaiPBS