รู้จัก ไข้หวัดมะเขือเทศ หลังอินเดียเจอระบาดในเด็ก ป่วยแล้ว 82 ราย
เฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ของศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รายงานกรณีกระทรวงสาธารณสุขอินเดียได้ออกมายืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อ ไข้หวัดมะเขือเทศ ในประเทศอินเดียตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 จนถึงขณะนี้พบแล้วถึง 82 ราย เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ พบการระบาดมากที่สุดในรัฐเกรละ รองลงมาเป็น รัฐทมิฬนาฑู รัฐโอริสสา และรัฐหรยาณา
ที่มีชื่อเรียกขานในท้องถิ่นว่า ไข้หวัด มะเขือเทศ เนื่องจาก หากติดเชื้อ ผู้ป่วยซึ่งเป็นเด็กเล็กจะมีผื่นแดงคล้ายมะเขือเทศ สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย โดยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ง่ายเป็นพิเศษ เนื่องจาก เชื้อไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายได้ง่ายจากการสัมผัส เช่น การสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด หรือนำสิ่งของเข้าปาก
โดยมีเด็กหญิงอายุ 13 เดือนและพี่ชายอายุ 5 ขวบจากอังกฤษ บิดา มารดาได้พากลับไปเยี่ยมญาติที่อินเดีย เกิดมีผื่นขึ้นที่มือและขา เหมือนไข้หวัดมะเขือเทศ ใน 1 สัปดาห์หลังกลับจากรัฐเกรละ ประเทศอินเดียในเดือนพฤษภาคม 2022 จากการเยือนอินเดียเป็นเวลา 1 เดือน ครอบครัวนี้ได้รับทราบจากสื่อท้องถิ่นในรัฐเกรละรายงานเกี่ยวกับอาการป่วยลึกลับในเด็ก ซึ่งถูกขนานนามว่า "ไข้หวัดมะเขือเทศ" พ่อแม่เด็กแจ้งว่าลูกของเขาได้เล่นกับเด็กอีกคนหนึ่งที่เพิ่งหายจาก ไข้หวัดมะเขือเทศ หนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเดินทางกลับอังกฤษ หลังจากกลับมาอังกฤษเด็กทั้งสองก็ป่วย มีอาการไข้ออกผื่น ลักษณะเดียวกับไข้หวัดมะเขือเทศ
ดร. จูเลียน ถัง จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ในสหราชอาณาจักรและเพื่อนร่วมงานได้ทำการสวอปตุ่มน้ำ และลำคอไปตรวจ PCR พบว่าไม่ใช่ไวรัสฝีดาษลิง แต่เป็นไวรัสในกลุ่มของ "เอนเทอโรไวรัส (Enterovirus)" ที่ก่อให้เกิด โรคมือ เท้า ปาก และจากการถอดรหัสพันธุกรรมพบว่าเป็นไวรัส คอกซากี A16 โดยมีรหัสพันธุกรรมคล้ายกับคอกซากี A16 สายพันธุ์ที่ระบาดในจีน มิใช่ไวรัสชนิดใหม่ หรือสายพันธุ์ใหม่แต่ประการใด
สรุปได้ว่า โรคอุบัติใหม่ที่เรียกว่า ไข้หวัดมะเขือเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กจำนวนหนึ่งในเมืองเกรละ ประเทศอินเดีย จากการถอดรหัสพันธุ์กรรมจากตุ่มแผลและลำคอจากเด็กเล็กสองคนพบว่าเป็นโรคมือ เท้า และปาก อันเกิดจากไวรัส "คอกซากี A16" ที่ระบาดในเด็ก มีอาการไม่รุนแรง โดยอาจเป็นไปได้ด้วยว่าบางรายอาจเกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสชิคุนกุนยาและไวรัสไข้เลือดออกที่มียุงเป็นพาหะ
สำหรับชุดตรวจกรอง PCR ในประเทศไทย ต่อไวรัสที่ก่อโรคมือ เท้า และปาก มีให้บริการอยู่แล้วใน รพ. ภาครัฐ และเอกชน หลายแห่ง เนื่องจากโรคไข้ออกผื่นเกิดขึ้นเป็นประจำในเด็กเล็ก