รัฐบาลปากีสถานร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ หลังเผชิญภัยพิบัติน้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่ตกหนักในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งได้คร่าชีวิตประชากรไปแล้วอย่างน้อย 903 คน

เชอร์รี เรห์มาน รัฐมนตรีด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของปากีสถาน บอกกับสื่อ CNN ในวันพุธ (24 ส.ค.) ว่า ชาวปากีสถานหลายพันคนกำลังไร้ที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร และถูกตัดขาดการสื่อสารกับโลกภายนอก ซึ่งถือเป็น หายนะด้านมนุษยธรรม ครั้งใหญ่ และมีเด็กเล็กๆ เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 326 คน

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมจากอิทธิพลของลมมรสุมทำให้มีชาวปากีสถานได้รับความเดือดร้อนประมาณ 2.3 ล้านคนตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA)

OCHA ระบุในจดหมายข่าวเมื่อวันอังคาร (23) ว่า มีบ้านเรือนในปากีสถานถูกทำลายไปอย่างน้อย 95,350 หลัง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานและประชากรคือแคว้นสินธ์ (Sindh) ทางตะวันออกเฉียงใต้ และแคว้นบาลูจิสถาน (Balochistan) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

รายงานของ OCHA ระบุด้วยว่า มีสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านล้มตายไปกว่า 504,000 ตัว เกือบทั้งหมดอยู่ในแคว้นบาลูจิสถาน ขณะที่สะพาน 129 แห่ง และถนนอีกเกือบ 3,000 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทำให้การเข้าถึงผู้ประสบภัยยิ่งเป็นเรื่องยากลำบาก

สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติปากีสถาน (NDMA) แถลงเมื่อวันพุธ (24) ว่า ปากีสถานจำเป็นต้องขอการสนับสนุนจากนานาชาติในแง่ของภารกิจบรรเทาทุกข์ การเยียวยาผู้ประสบภัย รวมไปถึงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย โดยหลังจากนี้คาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และสถานการณ์น้ำท่วมอาจขยายวงกว้างกว่าเดิม

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำปากีสถานประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า รัฐบาลจีนได้อนุมัติความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินให้แก่อิสลามาบัด โดยจะส่งเต็นท์ที่พักจำนวน 25,000 หลัง และเงินทุนฉุกเฉินอีก 300,000 ดอลลาร์ (ราว 10 ล้านบาท) เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภูมิภาคต่างๆ ของปากีสถาน

ที่มา CNN