10 เรื่องจริง พิ้งค์กี้ สาวิกา นางเอกโกอินเตอร์ ชีวิตพลิกผัน สู่เรือนจำ
ย้อนเส้นทางชีวิต พิ้งค์กี้ สาวิกา ประวัติดาราสาวนัยน์ตาคม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเป็นที่รู้จัก ผ่านมรสุมลูกแล้วลูกเล่า จนถึงวันที่ต้องเข้าสู่เรือนจำ
สำหรับ พิ้งค์กี้ สาวิกา ไชยเดช เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2529 เป็นบุตรคนเล็กจากทั้งหมด 3 คนของ นายสมาน กับ นางสรินยา ไชยเดช โดยมีพี่ชายอีก 2 คน เธอเข้ารับการศึกษาระดับอนุบาลที่โรงเรียนพระหฤทัยพัฒนเวศม์ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเพ็ญสมิทธ์ ก่อนจบปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรังสิต และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา
ด้วยหน้าตาที่สวยหวาน แต่แฝงด้วยความคมแบบสาวแขก ทำให้หลายคนสงสัยว่า พิ้งค์กี้ เป็นลูกครึ่งอะไร แท้จริงแล้วเธอมีหลากหลายเชื้อสาย ทั้งไทย, อังกฤษ, จีน, มอญ และปากีสถาน โดยบิดาของเธอเป็นมุสลิมที่มีเชื้อสายจีน เธอจึงเติบโตมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการทำงานในวงการบันเทิงแม้แต่น้อย
สาวสวยคนนี้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ โดยได้รับการชักชวนจากแมวมอง ขณะเดินเล่นกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง งานชิ้นแรกของเธอเป็นการถ่ายโฆษณา จากนั้นจึงมีผลงานตามมาเรื่อย ๆ ก่อนมีโอกาสแสดงละครเรื่องแรกกับทางช่อง 3 คือ เรื่อง ไฟในดวงตา รับบทเป็นลูกของ จันทร์จิรา จูแจ้ง หลังจากนั้นไม่นาน พิ้งค์กี้ก็ได้ย้ายมาเล่นละครกับทางช่อง 7 และมีผลงานเรื่อยมา
ชีวิตในวงการของสาวพิ้งค์กี้ เรียกได้ว่าเป็นดาราเด็กยุค 90 ที่ทุกคนต้องรู้จัก มีผลงานละครดัง ๆ หลายเรื่อง อาทิ วันนี้ที่รอคอย, เกิดแต่ตม, ปลาบู่ทอง, แก้วจอมแก่น ส่วนละครที่ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกก็คือ ดาวพระศุกร์ ซึ่งเธอรับบทเป็นดาวพระศุกร์ตอนเด็ก ทำให้ฉายแววโดดเด่นเป็นนักแสดงดาวรุ่ง และมีโอกาสเข้ามาอีกมากมาย ก่อนจะก้าวมาเป็นนักแสดงในสังกัดกันตนา และช่อง 7 มีผลงานละครสร้างชื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แดนซ์ไม่เซ่อเลยเจอรัก, กษัตริยา, คู่แกร่งแข่งกันเก่ง, อังกอร์ 2, สาวน้อยร้อยล้าน, ธิดาซาตาน, เจ้าหญิงลำซิ่ง, วงเวียนหัวใจ, ราชินีลูกทุ่ง
หลังจากนั้นมีช่วงหนึ่งที่เธอเฟดตัวจากวงการบันเทิงไทยไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เธอได้กลับมาแสดงละครอีกครั้ง รับบทนางเอกในละครเรื่อง “ทองประกายแสด” และพลิกบทบาทเป็นนางร้ายครั้งแรกในละครเรื่อง “มารยาริษยา” ทำเอาคนดูเซอร์ไพรส์อย่างมาก ปัจจุบัน พิ้งค์กี้ เป็นอีกนักแสดงอิสระที่มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร็ว ๆ นี้จะมีละครเรื่อง ลายกินรี และ เรือนชฎานาง ลงจออีกด้วย
ไม่ใช่แค่การแสดงเท่านั้น แต่สาวสวยความสามารถเพียบคนนี้ยังมีฝีมือในการร้องเพลงอีกด้วย โดยเคยออกอัลบั้มร่วมกับเพื่อน ๆ 3 คน ในนาม บั๊ก บันจี้ (Bug Bunji) เมื่อปี พ.ศ. 2543 สังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีเพลงฮิตติดหู เช่น O-YA-O, รู้ป่ะ, อยากมีแค่เธอ, ไม่อยากยืนข้างเธอ และขอบคุณดาว นอกจากนั้นเธอยังร้องเพลงประกอบละครอีกมากมาย จนเป็นที่ยอมรับกันเลยว่าสาว พิงค์กี้ มีทั้งรูปร่าง หน้าตา และน้ำเสียง ที่ดีครบเครื่องจริง ๆ 6. รางวัลที่ได้รับ
แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวย แต่จากประสบการณ์ที่บ่มเพาะมายาวนาน ทำให้เธอแสดงฝีมือจนเป็นที่ประจักษ์ และสามารถคว้ารางวัลมาการันตีผลงานการแสดงมากมาย ได้แก่
รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 4 สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม พ่วงด้วยรางวัลพิฆเนศวร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2556 สาขานักแสดงสมทบหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง มารยาริษยา ช่อง 5
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 36 สาขาดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง ให้รักพิพากษา ช่อง 3
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 36 สาขาดารานําหญิงดีเด่น จากละครเรื่อง ลวงฆ่าล่ารัก ช่อง PPTV
รางวัลนาคเณศ 2565 สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง เรือนร่มงิ้ว ช่อง 8
ชีวิตของพิ้งค์กี้กำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม ถึงขั้นที่หลายคนยกให้เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงคนต่อไป แต่แล้วในช่วงที่ใกล้จะหมดสัญญากับช่อง 7 พิ้งค์กี้ก็ตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องความสัมพันธ์กับ เป็ก สัณณ์ชัย เองตระกูล สามีของ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล กลายเป็นข่าวฉาวจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัว รวมถึงงานในวงการบันเทิงของนางเอกสาว ก่อนจะหายหน้าหายตาไปพักใหญ่ กระทั่งเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 พิ้งค์กี้ และ ธัญญ่า ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในงาน เที่ยวให้สุด ปักหมุดแดนใต้ ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งสองกล่าวว่าได้อโหสิกรรมต่อกันและไม่มีเรื่องหมางใจกันอีก
นอกจากงานในวงการบันเทิงไทยแล้ว ผลงานของ พิ้งค์กี้ สาวิกา ในต่างประเทศยังไม่ธรรมดา เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ได้ไปเดบิวต์ไกลถึงประเทศอินเดีย โดยในปี พ.ศ. 2553 เธอเริ่มมีผลงานในวงการภาพยนตร์บอลลีวูดเรื่องแรกคือ Markandeyan ตามมาด้วยปี พ.ศ. 2556 เธอได้เดินทางไปร่วมงานภาพยนตร์อินเดียอีกครั้งในเรื่อง Emo Gurram Egaravachu ซึ่งทำรายได้ทะลุร้อยล้านรูปี (ราว 50 ล้านบาท) และวงการบันเทิงอินเดียถึงกับยกให้เป็นซูเปอร์สตาร์หญิงเลยทีเดียว
ด้านความรักของสาว พิ้งค์กี้ เธอได้เปิดตัวคบหาดูใจกับไฮโซเพชร อิทธิ ชวลิตธำรง นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ก่อนจะเข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557 ที่โรงแรมดังกลางพัทยา โดยทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันกว่า 3 ปี และเริ่มมีข่าวลือว่าขาเตียงหัก ก่อนที่นางเอกสาวจะออกมายอมรับว่าเลิกจริง และหย่ากันช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ส่วนสาเหตุเป็นเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน สามีอยากให้ทำธุรกิจ แต่เธอไม่ถนัด เพราะชอบงานในวงการบันเทิง พร้อมทั้งยืนยันว่าจบกันด้วยดี แต่แล้วไฮโซเพชรก็ออกมาแฉว่าไม่เคยห้ามพิ้งค์กี้ทำงาน ที่ผ่านมาช่วยเหลือครอบครัวอีกฝ่ายมาตลอด พร้อมบอกอีกว่าทนอยู่กับความไม่ปกติแบบนี้มา 3 ปีกว่าแล้ว กลายเป็นเรื่องราวที่ทำเอาทุกคนอึ้งไปตาม ๆ กัน 10. พิ้งค์กี้ สาวิกา ถูกจับคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D
หลังจากผ่านดราม่าต่าง ๆ มาแล้ว เธอก็ต้องเจอกับมรสุมลูกใหญ่อีกครั้ง เมื่อ พิ้งค์กี้ พร้อมด้วย แม่อ้อย สรินยา และพี่ชาย นายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมคดีแชร์ลวงโลก Forex-3D ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 พบว่าแชร์ลูกโซ่ที่มีการประกาศเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมลงทุนซื้อเงินตราต่างประเทศ แต่ไม่มีการลงทุนจริงนี้ มีนายอภิรักษ์ โกฎธิ เป็นผู้ก่อตั้งและบริหาร ก่อนถูกจับกุมดำเนินคดี
ส่วน พิ้งค์กี้ เข้าไปเกี่ยวข้องจากการถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนแชร์เทรดเงินในครั้งนั้น โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 พิ้งค์กี้และครอบครัวเข้าพบหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจากคดีดังกล่าว ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ เพราะร่วมลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่ได้เงินคืนมาและอยากได้คืน
แต่แล้วเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 พนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้องพิ้งค์กี้และครอบครัว กับพวก รวม 19 คน เป็นจําเลยฐานกระทำความผิดโดยทุจริต โดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกง มีผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวง จำนวน 9,824 คน มูลค่าความเสียหายรวมกัน 2,489,820,321.52 บาท แม้นางเอกสาวจะยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะหวั่นหลบหนี จึงถูกคุมตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลางในที่สุด