วิจัยเผยสมุนไพรใกล้ตัว ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง ทุกบ้านมีแน่นอน

วิจัยเผยสมุนไพรใกล้ตัว ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง ทุกบ้านมีแน่นอน

กระเทียม เป็นอีกหนึ่งส่วนที่หลายบ้านชอบนำไปทำอาหารต่างๆ และบางคนกินแบบสดๆก็มี แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าสมุนไพรกลิ่นแรงชนิดนี้กำลังเป็นที่สนใจในวงการแพทย์ทั่วโลก ในฐานะอาหารที่อาจมีส่วนช่วย ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

กระเทียมกับสารอัลลิซิน (Allicin) พลังต้านอนุมูลอิสระ หนึ่งในสารสำคัญที่ทำให้กระเทียมเป็นที่จับตามองของวงการวิทยาศาสตร์ คือ สารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกระเทียมถูกสับ บด หรือเคี้ยว สารนี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ โดยงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า อัลลิซินสามารถ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิดในห้องทดลอง ได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม

งานวิจัยรองรับจากวงการแพทย์

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition (ปี 2001) ระบุว่า สารประกอบกำมะถันในกระเทียม (organosulfur compounds) มีบทบาทในการ ป้องกันการก่อตัวของสารก่อมะเร็ง รวมถึงช่วยเร่งให้ร่างกายขจัดสารพิษเหล่านั้นออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลการศึกษาส่วนใหญ่มาจากการทดลองในระดับเซลล์และสัตว์ทดลอง

อ้างอิง: Journal of Nutrition, 2001

นอกจากนี้ การศึกษาของ National Cancer Institute (NCI) สหรัฐอเมริกา ชี้ว่า การบริโภคกระเทียมในปริมาณเหมาะสม มีแนวโน้มลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะ มะเร็งทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งลำไส้ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ส่วนใหญ่มาจากการศึกษาเชิงสังเกต ยังต้องมีการวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

ข้อควรระวัง แม้กระเทียมจะมีคุณสมบัติมากมาย แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดท้อง แสบท้อง ลมหายใจมีกลิ่นแรง หรือในบางรายอาจเกิดการแพ้ ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และหากคุณมีโรคประจำตัวหรือทานยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคกระเทียมในรูปแบบเสริมอาหารหรือสกัดเข้มข้น

แม้กระเทียมจะยังไม่ได้รับการรับรองว่า รักษา มะเร็งได้โดยตรง แต่ด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และอาจยับยั้งเซลล์มะเร็งในระดับเซลล์ จึงทำให้กระเทียมเป็นอีกหนึ่ง มหัศจรรย์จากธรรมชาติ ที่อาจช่วยป้องกันโรคร้ายนี้ได้ในระยะยาว เมื่อรวมเข้ากับการดูแลสุขภาพในภาพรวม เช่น การกินอาหารหลากหลาย ออกกำลังกาย และไม่สูบบุหรี่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ