วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 19.00 น. ในพื้นที่จังหวัดนครพนมได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนมู่หลานแล้ว หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมขังตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงย่านชุมชนเศรษฐกิจ

เนื่องจากไม่สามารถระบายลงแม่น้ำโขงได้ทัน จุดหนักสุดบริเวณถนนอภิบาลบัญชา หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม ระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน ในการสัญจรไปมา รวมถึงร้านค้าในย่านตลาดสด ต้องเร่งเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง บนถนนสายเดียวกันบริเวณหน้าโรงพยาบาลนครพนมถึง 4 แยกประปา ก็มีน้ำท่วมล้นฟุตบาท

โดยทางเทศบาลเมืองนครพนม ได้ระดมเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ รวมถึงเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ ให้มีการระบายน้ำในเขตชุมชน ลงสู่น้ำโขงให้มากที่สุด ซึ่งระดับน้ำโขงอยู่ที่ระดับประมาณ 7 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติ ล้นตลิ่งประมาณ 6 เมตร คือที่ 13 เมตร ทำให้ยังสามารถระบายลงน้ำโขงได้ แต่ต้องใช้เวลานานในการรอระบาย แต่หากมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหลายชั่วโมง จะส่งผลกระทบหนัก ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

นอกจากเจอพายุโซนร้อนมู่หลานถล่มแล้ว ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ต้องประสบปัญหาไฟฟ้าดับหมดทั้งเมืองซ้ำอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฯ ได้เร่งแก้ไขจ่ายไฟได้เป็นบางแห่ง

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ปฎิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่ามีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันรวมทั้งบางพื้นที่มีน้ำท่วมอยู่เดิมอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 11-17 สิงหาคม 2565 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ขอให้อำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เตรียมความพร้อมและกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นทันทีที่เกิดเหตุ ให้แจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม (กอปภ.จ.นพ.) ทราบทางโทรศัพท์/โทรสาร 0-4251-1025 , 0-4251-4065 และรายงานทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด