
อ.เจษฎา ไขข้อสงสัยแล้ว พระธาตุอินทร์แขวน ไม่กลิ้งลงมาหลังแผ่นดินไหวที่พม่า
จากกรณีเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อหลายพื้นที่ของเมียนมา โดยเฉพาะที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ขณะเดียวกัน ได้มีการแชร์คลิป “พระธาตุอินทร์แขวน” สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของเมียนมา มีอาการยอดของพระธาตุสั่นไหวไปตามความรุนแรงของแผ่นดินไหว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวง และแม้จะมีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันแบบหมิ่นเหม่ ก็ไม่ตกลงมาจากแรงแผ่นดินไหว ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ล่าสุด วันที่ 2 เม.ย. รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาไขข้อสงสัย โดยระบุว่า “ทำไมพระธาตุอินทร์แขวนถึงไม่กลิ้งลงมา หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว?”
อาจารย์เจษฎาบอกว่า หลายต่อหลายคนแปลกใจ ที่หินยักษ์ก้อนนี้ ซึ่งมีน้ำหนักหลายร้อยตัน และมาตั้งอยู่บนริมผา ในลักษณะท้าทายแรงดึงดูดของโลกจนดูเหมือนจะตกมิตกแหล่ กลับไม่มีการเคลื่อนแต่อย่างใดหลังในเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ที่ผ่านมา
ซึ่งก็คงเป็นเพราะมีหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าก้อนหินพระธาตุอินทร์แขวนนี้ เกิดจากการที่ในอดีต มีก้อนหินเคลื่อนที่หล่นลงมา แล้วติดคาอยู่ริมเพิงผาของยอดเขาพวงลวง โดยมีจุดศูนย์ถ่วงที่สมดุลพอดี ทำให้น้ำหนักไปอยู่บนต้วหน้าผา มากกว่าออกไปทางส่วนที่ยื่นออกไป!
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นครับ ! ก้อนหินที่ตั้งอยู่ของพระธาตุอินทร์แขวนนี้ จริง ๆ แล้ว เป็น ‘หินก้อนเดียวกันกับตัวหน้าผา’ นั่นแหละครับ โดยเกิดในทางธรณีวิทยานั้น ก้อนหินที่เห็นตั้งอยู่บนหน้าผา จริง ๆ แล้ว เป็นผลจากการที่น้ำไปกัดเซาะ (erosion) ชั้นหินแกรนิตที่แตกร้าวในแนวตั้งและแนวนอน ทำให้น้ำไหลไปตามแนวรอยแยกของหิน และกัดเซาะเปลี่ยนแปรรูปร่างของหินอย่างช้า ๆ เป็นเวลาอันยาวนาน จนทำให้ก้อนหินดูเป็นรูปกลมเกลี้ยงขึ้น และดูหลอกตา เหมือนกับว่าก้อนหินนี้ถูกยกขึ้นไปวางไว้บนหน้าผา อย่างน่าอัศจรรย์ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์