
รู้ตัวตนแล้ว คนงานเสียชีวิต จากเหตุแผ่นดินไหว ตึก สตง.ถล่ม
วันที่ 29 มีนาคม 2568 คืบหน้าเหตุแผ่นดินไหว ตึก สตง.ถล่ม พลตำรวจโทอาทิชา เปาอินทร์ ผบช.สพฐ.ตร. พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา เปิดเผยว่า ตอนนี้มีการนำตัวคนงานผู้เสียชีวิตส่งที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจแล้ว 6 ราย
โดยสามารถยืนยันอัตลักษณ์บุคคลได้แล้ว 1 ราย ได้ทำการติดต่อญาติโดยญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อเก็บ DNA เพื่อยืนยันว่าผู้ที่เสียชีวิตใช่ญาติหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบผลดีเอ็นเอตรง จึงให้ญาติทำเรื่องนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอุบลราชธานี
พร้อมบอกขั้นตอนว่าทันทีที่ร่างผู้เสียชีวิตมาถึงที่สถาบันนิติเวช จะทำการตรวจอัตลักษณ์บุคคล DNA ลายพิมพ์นิ้วมือฟัน ลายนิ้วมือแฝง จากนั้นจะนำข้อมูลต่างๆส่งให้กับคณะกรรมการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพื่อตรวจสอบเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใคร
จึงอยากประชาสัมพันธ์ ครอบครัวของผู้ที่สูญหายสามารถเดินทางมาที่สถาบันนิติเวชได้ก่อนเพื่อที่จะเก็บดีเอ็นเอข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล และอยากขอให้เป็นญาติพี่น้องสายตรง เพื่อหากเกิดกรณีมีผู้เสียชีวิตเข้ามาภายในสถาบันจะได้นำร่างผู้เสียชีวิตมาตรวจดีเอ็นเอ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
ส่วนกรณีที่ร้ายแรงถึงขั้นอาจจะมีผู้เสียชีวิตหลายรายทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจมีความพร้อมในการรองรับหรือไม่นั้น พลตำรวจโทอาทิชา ระบุว่าทางสถาบันนิติเวชได้มีการเตรียมความพร้อม ซึ่งภายในสถาบันนิติเวชนั้นสามารถเก็บร่างผู้เสียชีวิตได้จำนวน 80 ร่าง นอกจากนี้ยังประสานไปที่ มูลนิธิกู้ภัยเพชรเกษมให้นำรถโรงเย็นมาคอยอำนวยความสะดวก แต่เบื้องต้นก็คาดว่าทางสถาบันนิติเวชจะสามารถรองรับสถานการณ์ดังกล่าวได้
และในวันพรุ่งนี้จะเปิดใช้จุดวันสต็อปเซอร์วิสให้ญาติเข้ามาเก็บดีเอ็นเอ รับเอกสาร สามารถรับศพ และออกใบมรณบัตรได้เลยภายในสถาบันนิติเวช จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน. บางซื่อ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ภายในสถาบันนิติเวชคอยอำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้เสียชีวิต
และส่วนผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานต่างด้าวทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็มีการเก็บข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือเอาไว้ก็ได้ประสานขอข้อมูลไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนกรณีแรงงานต่างด้าวนั้นไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ในส่วนนี้จะต้องตรวจสอบอีกทีว่ามีข้อมูลหรือไม่ซึ่งจะหาข้อมูลไม่ตรงก็คงจะต้องเก็บศพไว้ก่อน