ชีวิตไม่ง่ายตั้งแต่วัยเด็ก สำหรับ พรีม รณิดา นางเอกลูกครึ่งไทย-อิตาลี ที่ต้องเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เมื่อพ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เธอกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี ต้องทั้งทำงาน หาเงิน และดูแลพี่ชายที่ป่วยเป็น ดาวน์ซินโดรม ควบคู่ไปกับการเรียนหนังสือ

พรีมเผยว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาหนักหนา แต่เธอไม่มีเวลาจมอยู่กับความทุกข์ มีเพียงคำถามว่า “จะเดินหน้าต่อยังไง?” เมื่อไม่มีเวลาเรียน เธอจึงเลือกสอบเทียบกระโดดเข้ามหาวิทยาลัยทันที เพื่อให้สามารถทำงานและดูแลครอบครัวได้อย่างเต็มที่ “เราแค่ต้องหาวิธีรับมือให้ได้” พรีมกล่าวถึงช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

แม้หลายคนจะมองว่าเธอเป็นเสาหลักของบ้าน แต่พรีมยืนยันว่า ทุกคนในครอบครัวต่างช่วยกัน คุณแม่ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ส่วนพี่ชายของเธอก็เป็น "พ่อบ้านชั้นดี" ที่ช่วยดูแลบ้านและเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ โดยที่บ้านมีการฝึกวินัยและสมาธิให้พี่ชายมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ปัจจุบันดูแลง่ายขึ้น และเขายังมีตารางกิจกรรมที่เคร่งครัด เช่น ร้องเพลงทุกคืน ก่อนปิดทุกอย่างและเข้านอนตามเวลา

พรีมทิ้งท้ายว่า ทุกครั้งที่มีโอกาส เธอพยายามพาพี่ชายออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เพราะเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ควรได้รับโอกาสเรียนรู้และสัมผัสโลกกว้าง "เราสนุกกับการได้ใช้เวลาร่วมกัน และนั่นคือสิ่งที่มีค่าที่สุด"