
วันเงินเข้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือน มี.ค. 2568
วันเงินเข้า บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมีนาคม 2568 โดย กระทรวงการคลัง เตรียมโอนเงินเข้าบัญชีให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประจำเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งเดือนจะมีดังนี้
วันเงินเข้าบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมีนาคม 2568
วันที่ 1 มีนาคม 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. - 26 ธ.ค. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ม.ค. 68 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ม.ค. - มี.ค. 68)
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
วันที่ 20 มีนาคม 2568
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนภายใน 26 ธ.ค. 2567 (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
สำหรับการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ทางด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยกระทรวงการคลังจะเปิดลงทะเบียนในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งจะมี 2 กลุ่มใหญ่ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือในทุกๆเดือน
1. กลุ่มเดิม คือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน ซึ่งคนกลุ่มเดิมไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ แล้วทำการคัดกรองผู้ได้รับสิทธิตามเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่จนจริง
2. กลุ่มใหม่ คือคนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน โดยมาจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี รวมถึงผู้ที่พลาดสิทธิในครั้งก่อนหน้า จะต้องมีการลงทะเบียน คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมไปถึงกลุ่มตกหล่นที่ลงทะเบียนในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยืนยันตัวตน
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งมีดังนี้
ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
ไม่มีบัตรเครดิต
ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 รอบใหม่ ผ่านแอปฯ ทางรัฐ
กระทรวงการคลัง ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เงินช่วยเหลือเท่าไหร่
วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
รวมเป็นเงิน 1,545 บาท