ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศ doisongphapluat เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ ผ่านมา ชายหนุ่ม วัย 30 ปี ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ว่าป่วยโรคเกาต์มานานถึง 15 ปีแล้วเริ่มมีอาการปวดผิดปกติที่ข้อเท้า และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกาต์ ตั้งแต่ในปี 2009 แต่กลับว่าเขายังไม่ได้เข้าพบแพทย์ในทันที ทั้งยังมักดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลัง3-4 ขวดต่อวัน

และจะนอนดึกและสั่งอาหารจานด่วนกินอยู่เสมอ ผมสามารถดื่มเครื่องดื่มชูกำลังหมดขวดในครั้งเดียว และยังชอบดื่มน้ำอัดลมมากๆ จนกระทั่งในปี 2018 ข้อมือของเขาเริ่มเปลี่ยนรูปจนดูเหมือน แง่งขิง เมื่อไปพบแพทย์จึงรู้ว่าอาการของเขาแย่ลงเพราะพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี ส่งผลให้ระดับกรดยูริคในเลือดสูงขึ้นและสะสมที่ข้อ เกิดการสะสมของเกล็ดทอฟี่

โดยแพทย์อธิบายว่า น้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลังมักมีน้ำตาลฟรุกโตส ซึ่งจากการวิจัยทั่วโลกพบว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณมากเป็นประจำ สามารถเพิ่มระดับกรดยูริคในเลือด และทำให้โรคเกาต์แย่ลง พร้อมทั้งลดประสิทธิภาพการรักษาโรค และเริ่มรับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ พร้อมกับปรับพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้น และไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้อีก แม้จะทำการผ่าตัดแล้วก็ตาม ทำให้เขายังสูญเสียความสามารถในการทำงาน

เรียบเรียง news in thailand