เอาจริง จับ 2 ราย มือเผาพื้นที่เกษตร ลามไหม้ไร่อ้อย 30 ไร่ ทำฝุ่น PM2.5 พุ่ง

เอาจริง จับ 2 ราย มือเผาพื้นที่เกษตร ลามไหม้ไร่อ้อย 30 ไร่ ทำฝุ่น PM2.5 พุ่ง

วันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ส่งหนังสือด่วนถึงนายอำเภอทั้ง 23 อำเภอ รวมถึงเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่งทั้งจังหวัด เรื่องการประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่

เนื่องด้วยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย ได้จับกุมผู้กระทำผิด 1 ราย เนื่องจากฝ่าฝืนประกาศด้วยการจุดไฟเผาวัชพืชในไร่อ้อยของตัวเอง

แล้วลุกลามไหม้ไร่อ้อยของเกษตรกรข้างเคียงได้รับความเสียหายประมาณ 17 ไร่

และตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ ก็ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดอีก 1 ราย ที่ทำการจุดไฟเผาวัชพืชในทุ่งนาแล้วลุกลามไหม้ไร่อ้อยของเกษตรกรข้างเคียงได้รับความเสียหาย 15 ไร่ ทั้งยังมีเครื่องตัดหญ้า กระท่อม แผงโซลาร์เซลล์ คอกวัว และอุปกรณ์ทำการเกษตรได้รับความเสียหายด้วย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย” โดยทั้ง 2 รายถูกแจ้งข้อกล่าวหาและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย

ซึ่งการจุดไฟเผาพื้นที่การเกษตรนอกจากจะสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนด้วย

ชาวบ้านรายหนึ่งบอกว่า ทุกวันนี้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยส่วนใหญ่จะไม่ได้เผาอ้อย เพราะโรงงานไม่รับซื้อ แต่ก็จะมีบางรายที่เผาวัชพืช หรือจุดไฟหาหนูแล้วเกิดลุกลามไหม้พื้นที่การเกษตรของเกษตรกร ซึ่งนอกจากสร้างความเสียหายแล้ว ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่เกิดไฟไหม้ก็ได้รับผลกระทบจากกลิ่นควัน และฝุ่น PM2.5 ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจด้วย.

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ