เรียกได้ว่า เป็นอดีตนักแสดง อย่าง ปอนด์ รุ่งรัตน์ ที่ล่าสุดเปิดใจชีวิตพัง ใน IN-DEPTH KHAOSOD เล่าบทเรียนทำชีวิตพลิกจากการเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นมาเป็นสิบกว่าปี หลากเรื่องราวที่เข้ามา จากทั้งเพื่อนจากพี่คนที่เคารพ

เคสแรกๆ จากคนที่เคารพรักมากๆ แนะนำไปซื้อทรัพย์สิน แต่สุดท้ายไม่มีทรัพย์สินเกิดขึ้นมา เงินที่ไว้วางใจให้ไปซื้อทรัพย์สิน เขาก็ขอไปหมุนก่อน เงินนั้นได้จากขายธุรกิจที่สร้างรายได้ เพื่อหวังจะไปเอาที่ดินผืนนี้ ที่ราคาถูกมาก ที่ดินใหญ่จะได้ตอบแทนผู้มีพระคุณทั้งหลาย

สิ่งที่คิดไว้พังหมด ธุรกิจที่ควรจะสร้างรายได้ รายได้หายไป เงินที่จะเอาไปซื้อหายไป ที่ดินก็ไม่ได้ ตลอดระยะเวลามาก็ยังช่วยเหลือเขาที่ติดขัด ค่าเรียนลูก ธุรกิจเขาถูกบังคับคดี หวังให้เขาฟื้นตัว รายแรกก็เกือบสิบล้าน และยังมีอีกรายที่มาเป็นหนี้ซึ่งก็เข้าใจเขาเพราะเป็นช่วงโควิด

คิดอยากทวงหนี้ แต่ก็คิดได้อย่างเดียว เพราะเขาลำบาก ที่บอกเอ็นดูเขาเอ็นเราขาด แต่ทำยังได้ เขาก็ไม่มี เขาก็สู้ชีวิต สะท้อนว่าเราจะไม่เอาความลำบากเราไปเป็นภาระใคร” หรือเพื่อนเอาโปรเจ็กต์มากระจายหุ้น วันที่มาก็แบบหนึ่ง จู่ๆก็ไม่ทำต่อ เป็นวงการบันเทิง เป็นเพื่อนที่รักทั้งนั้น พอไปได้ดีแล้วไม่ย้อนกลับมาเลย

เราก็เป็นนางแบก สิ่งที่พูดวันที่มา กลับไปพูดอีกแบบหนึ่ง กลายเป็นเราผิด เราไม่ร่วมผิดชอบ ทั้งที่เราไม่ใช่เจ้าของบริษัท และยังมีรายอื่นอีก

ถามว่าทำไมไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือคนอื่น ปอนด์ กล่าวว่า “เพื่อนกัลยาณมิตรที่ดีทุกคนโกรธปอนด์ ทำไปเป็นแบบนี้ ไม่โทษใคร มันเป็นการจัดสรร ให้ต้องเจอแบบนี้ มาเพื่อเรียนรู้

มันไม่ใช่ครั้งแรก เพื่อนจะบอกพอแล้วนะ เข็ดยัง แหม่ม ตั๊ก พี่เกด พี่ทร พี่หมี ทุกคนที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดี พอหรือยัง ได้ยัง คนเหล่านี้ซัพพอร์ตพอถึงจุดสุดๆ ขอบคุณทุกคนกัลยาณมิตรที่ดี แต่ปอนด์เชื่อว่าทุกคนที่ปอนด์เจอเขาเป็นคนดีหมด แต่เขาอาจเป็นแค่ฟันเฟือง เป็นแค่หนึ่งบทเรียนของปอนด์ ที่เข้ามาสอนเรา

คนเก่าไม่อยากติดกรรมต่อไปก็เอามาคืน ปอนด์ขอจบกรรมแค่นี้ไม่ต่อ ตอนนี้ชนเพดานแล้ว คนใหม่ไม่ต้องมาแล้ว ไม่ให้แล้วจริงๆ เพราะครั้งนี้ กระทบแม่ กับสุขภาพ กับครอบครัว (ร่ำไห้) พี่ชายอีกคนต้องแยกไปอยู่อีกที่ ไม่รู้มีพัดลมเปิดนอนหรือเปล่า ไม่รู้นอนยังไง กินอยู่ยังไง ไปขับแท็กซี่ เห็นแม่แล้วมันสุดแล้ว กระทบครอบครัว ครั้งนี้พอจริงๆ

หลังวันเกิดทุกอย่างจะต้องดี ทิ้งของเก่าทั้งหมด ขายที่ดินเคลียร์หนี้จำนอง มีเพื่อนที่ซัพพอร์ตกัน 10-20 คน 2,000 จนถึงแสน โอนจากอเมริกา ออสเตรเลีย แหม่ม ตั๊ก ฝน พี่เอ ทิวากร พี่ปราบต์ปฎล พี่ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พูดไม่หมด ปอนด์เท่านั้นเท่านี้ เอาไปก่อน โอนมาหลายๆคน

เหมือนเทวดาหรืออะไรจะรู้ พอจะหมด ปอนด์ขอเบอร์บัญชี จะสั่งซื้อโน่นนี่ แต่ไม่ใช่ โอนมาแต่ไม่ต้องเอาของมาให้นะ แต่เราจดไว้หมด ขายที่ได้จะคืนทุกคน พี่ชายคนโตเขาอยู่เขาสบายๆ แต่วันนี้เป็นเพราะปอนด์ ต้องมาลำบากตอนแก่ แม่คิดมากทรุดโทรมทั้งที่ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วล้มยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ

มีวิธีคุยให้เป็นมุมบวกทำไมต้องมาเช่าบ้านอยู่ ทำไมต้องกินแบบนี้ แต่ คนแก่ กระทบกระเทือนจิตใจ มีซึมเศร้าเล็กๆ บางทีพูดเพ้อทั้งคืน จนปอนด์ไม่ได้นอน  รายได้ตอนนี้ยังมีวิ่งงาน ขายภาพยนตร์ ได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นพิธีกรรายการเกษตร ขายอุปกรณ์เกษตร เขาให้ทำเพื่อให้เรามีเงินมาจ่ายค่าบ้าน ขายของตลาดนัด ขายกางเกงยีนส์ ขายสบู่ ยาดม ยังดิ้นรนทุกอย่างใครจ้างไปทำอะไร ส่วนที่ทำหน้าใหม่เพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์ มูลค่าทำหน้ามากกว่าเงินที่เราได้ เราได้รับความเมตตา ทำหน้าฟรีแล้วได้เงินด้วย