เจ้าสัวขับรถหรู 32 ล้านกลับบ้านเกิด เจอแม่เอาปลามาตากเพียบ
เจ้าสัวยิ้มแห้ง ขับรถโรลส์-รอยซ์ 32 ล้านกลับบ้านนอก เจอแม่เอาปลามาตาก เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องของ นายหลิน ชายจีนที่อยู่ในวัย 40 กว่าปี ก่อนหน้านี้ เขาตัดสินใจออกจากบ้านเกิดในมณฑลฝูเจี้ยน มาทำงานในเมืองใหญ่ตั้งแต่ตอนที่มีอายุเพียง 20 ปี
จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป นายหลินซึ่งประสบความสำเร็จเป็นเจ้าสัวใหญ่ ก็ตัดสินใจจะขับรถคันหรูกลับบ้านเกิดไปหาพ่อแม่ในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา โดยไม่คิดจริง ๆ ว่าจะเกิดเรื่องที่ทำเอากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่ยิ้มแห้ง หลังจากได้เห็นคุณแม่ของเขานำปลามาตากแห้งบนรถโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) มูลค่ากว่า 6 ล้านหยวน หรือกว่า 32 ล้านบาท
เรื่องราวดังกล่าวกลายมาเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้งในขณะนี้ หลังจากที่เว็บไซต์ new.qq.com มีรายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 โดย นายหลิว เผยว่า เขาจากบ้านเกิดเข้ามาทำงานที่เมืองใหญ่ตั้งแต่อายุ 20 ปี ตอนแรกเขาก็ทำงานเป็นลูกจ้าง จนเมื่อเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งก็ตัดสินใจแยกตัวออกไปเปิดกิจการของตัวเอง
ด้วยความที่นายหลิวเป็นคนฉลาด กล้าได้กล้าเสีย ในไม่ช้าเขาก็สามารถเปิดธุรกิจขนาดใหญ่ได้สำเร็จ และมีความมั่งคั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ การจะถอยรถหรูสักคันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเจ้าสัวอย่างเขา
และในปี 2565 นายหลิวก็เพิ่งจะเปลี่ยนรถ BMW มาซื้อรถโรลส์-รอยซ์ สีดำ มูลค่ากว่า 6 ล้านหยวน และตัดสินใจขับรถคันใหม่เอี่ยมกลับไปบ้านเกิดที่ชนบทในช่วงตรุษจีน
นายหลิวเผยว่า บ้านเกิดของเขาเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ใกล้หมู่บ้านประมง ชาวบ้านที่นั่นก็ไม่ได้รู้กันหรอกว่ารถโรลส์-รอยซ์ มีราคาแพงขนาดไหน เข้าใจว่าเป็นเพียงรถธรรมดาคันหนึ่ง และแม่ของเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ารถคันนี้มูลค่าเท่าไหร่
จนเมื่อขับไปถึงบ้าน นายหลิวก็จอดรถทิ้งไว้ และต่อมาขณะที่แม่กำลังจะนำปลาไปตากแห้ง ปรากฏว่าแม่ไม่สามารถหาที่ราบเหมาะ ๆ ตากปลาได้ จึงตัดสินใจใช้ประโยชน์จากฝากระโปรงหน้าของรถลูกชาย ที่ทั้งกว้างและเป็นพื้นที่เรียบ ๆ มาเป็นที่ตากปลาซะเลย
ขณะที่นายหลิวซึ่งเพิ่งจะมาเห็นภายหลัง ก็ถึงกับยิ้มแห้งและทุกข์ใจสุด ๆ ตอนเห็นแม่นำปลาจำนวนมากมาตากบนรถหรูของเขา แต่ก็ไม่กล้าจะทักท้วงอะไร เพราะเขาเข้าเมืองใหญ่ไปทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย แทบไม่ได้อยู่กับพ่อแม่เลย ในที่สุดเพิ่งจะได้กลับมาเยี่ยมพวกท่านช่วงตรุษจีน ทำให้พ่อแม่มีความสุขมาก แถมปลาเหล่านี้แม่ก็ตั้งใจจะนำมาตากแห้ง ให้เขานำกลับไปกินที่เมืองใหญ่
ปลาแห้งเหล่านี้ล้วนเต็มไปด้วยความรักของแม่ ดังนั้นแม้เกลือจากปลาจะกัดสีรถจนเป็นรอย นายหลิวก็ไม่ใส่ใจอะไร ต่อให้รถแพงขนาดไหนก็ไม่สำคัญเท่าความปรารถนาดีของแม่
นายหลิวยอมรับว่า เขากลัวว่าแม่จะทุกข์ใจหากรู้ราคาของรถ จึงไม่กล้าบอกราคาให้แม่รู้ และยังมาช่วยแม่ตากปลาด้วยกันแทน ก่อนจะถ่ายภาพนำมาโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตเพื่อล้อตัวเอง ให้ทุก ๆ คนได้รู้ว่า ไม่ว่าเขาจะขับรถแพงแค่ไหนกลับมาบ้านเกิด สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นที่ตากปลาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวเน็ตอมยิ้ม ชื่นชมในตัวนายหลิวที่แม้รถหรูมูลค่าหลายล้านของเขาจะถูกแม่ใช้ตากปลา แต่เขากลับเลือกจะมาช่วยแม่ตากปลา แทนที่จะเข้าไปห้าม แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นลูกที่ดีแค่ไหน