ปุ้ย TPN เผยพี่เลี้ยง เป๊ปปี้ เพอร์เพรชชิวา กู้เงินส่งประกวด MUT นั่งร้องไห้หลังรู้สละสิทธิ์
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำเอาแฟนๆตกใตกันไม่น้อย หลัง เป๊ปปี้ เพอร์เพรชชิวา ผู้เข้าประกวดหมายเลย 22 หนึ่งในนางงามที่เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และยังเป็น 1 ในตัวเต็ง ได้ขอสละสิทธิ์จากการประกวดก่อนขึ้นรอบพรีลิมมินารี
ล่าสุด ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้อำนวยการกองประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า
หลังจากที่พี่เลี้ยงที่ส่ง เป๊ปปี้ เข้าประกวดได้ทราบเรื่องดังกล่าวถึงกับช็อก เพราะเพิ่งทราบพร้อมทุกคน อีกทั้งที่ผ่านมาทั้งลงทุน ลงแรงเพื่อดันน้องให้ถึงความฝัน แถมยังไปกู้เงินมาเพื่อการประกวดเวทีนี้โดยเฉพาะอีกด้วย
ยอมรับว่าเมื่อคืนก็มีการเซอร์ไพรส์จริงๆ ก็ได้คุยกัน จริงๆ เราไม่รู้เรื่องเลย น้องเค้าแจ้งกลางคืนก่อนหน้า 1 วัน น้องเค้าแจ้งกับพี่เลี้ยงของกอง ซึ่งพอเราฟังแล้วมันไม่ใช่แล้วนะ ตอนแรกเราไม่อยากให้เป็นข่าวเลย แต่มันไม่ได้
ตอนแรกน้องมาบอกกับพี่เลี้ยงว่าเค้าคิดดูแล้ว เค้าอยากไปเรียนต่อ แล้วเค้าขอให้ไม่ต้องพูดออกไป ไม่ต้องบอกพี่เลี้ยงหรือแฟนคลับได้มั้ย เพราะเค้ากลัวแฟนคลับจะเสียใจ
ในวันที่เซ็นสัญญาเข้ากองประกวด พี่เลี้ยงบอกว่ามีน้องเป๊ปปี้นี่แหละที่ไม่อยากเซ็น เพราะเค้ามีเหตุผลต้องไปเรียนต่อ ซึ่งเค้าก็ไม่ให้บอกใคร และยินดีที่จะตกรอบ หรือสละสิทธิ์ ซึ่งพี่ปุ้ยมองว่ามันไม่ได้ ก็เลยนัดน้องเข้ามาคุย ซึ่งน้องเค้าก็ยอมรับเลยว่า ไม่คิดว่ากระแสการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มันจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เค้าเคยประกวดที่อเมริกา 3 วันจบ และเค้าก็คิดว่าเค้าจะไปเรียนต่อดีกว่า เราก็บอกให้คิดดีๆ
ซึ่งเค้าบอกว่าขอไม่พูดไม่บอกใครได้มั้ยเพราะกลัวพี่เลี้ยง กลัวด้อมเค้าเสียใจ เราก็ถามตรงๆ ว่าจะจัดการยังไง และมีศักยภาพมากแค่ไหน น้องเค้าก็บอกว่า คิดว่าจะเข้า TOP5 แน่นอน แต่เค้ายินดีถ้าได้เข้าไปแล้วก็จะสละ ไม่เอาอะไรเลย สละให้คนต่อไปมาแทน
ซึ่งเราก็มองว่าไม่ใช่แล้ว และให้น้องเขียนไว้เลยเป็นลายลักษณ์อักษรเพราะกลัวมีปัญหาทีหลัง น้องก็เขียนมา 2 หน้ากระดาษตามที่พูดหมดเลย ว่ายินดีที่จะสละ และจะกลับไปเรียนหนังสือ เราก็บอกว่าสิ่งหนึ่งเราต้องขออนุญาตซื่อสัตย์กับคนดูเหมือนกัน ก็ต้องให้คนดูหยุดโหวต ส่วนการที่จะปล่อยให้เข้ารอบ เราก็คิดว่ามันไม่แฟร์กับทุกคน เพราะว่าคนที่จะเข้า TOP5 ต้องเข้าด้วยศักยภาพของเค้า ไม่ใช่ว่ามีคนสละสิทธิ์แล้วจะเอาอีกคนเข้ามาแทน
แม่ปุ้ยก็เรียกคุณโอพี่เลี้ยงของน้องเค้ามา เพราะเราเห็นเค้าขนเสื้อผ้าเข้ามาด้วยความหวัง ก็สงสารมากเลย เราไม่ได้ว่าน้องนะเพราะเค้ายังเด็ก แต่เราเห็นแววตาของพี่เลี้ยงว่าเค้ามุ่งมั่นมากเลย เราก็ถามว่ารู้จักกับน้องเค้าได้ยังไง โอก็เล่าว่าตามน้องมาได้ 2 ปีแล้ว เค้าตอบว่ามีแพชชันที่อยากจะประกวด แล้วโอเค้าก็ทิ้งงานทุกอย่างเลยในช่วงของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เพราะอยากจะปั้นเด็กคนนี้ให้ไปถึงฝัน แล้วก็ไม่รับงานอะไรเลย แววตาเค้าเป็นประกายมาก
เราก็บอกว่า น้องโอออกไปนั่งข้างนอกก่อนนะ ขอให้แม่ปุ้ยคุยกับเป๊ปปี้แป๊บนึง ขออนุญาตเค้าก่อนก็เลยคุยกับเป๊ปปี้ ให้เค้าขอโทษพี่เลี้ยง ซึ่งน้องก็น่ารักและเค้าก็ยินดี เลยเรียกพี่เลี้ยงเข้ามา พี่เลี้ยงเค้าก็นั่งมือสั่นแล้วพูดเสียงอ่อยเลยว่า แม่ปุ้ย พรุ่งนี้หนูจะอยู่ยังไง แล้วจะต้องบอกใครเป็นคนแรก เพราะว่าการทำนางงามคนหนึ่ง ทุกคนรู้ดีว่ามันมีองค์ประกอบมากมาย จะแจ้งคนเหล่านั้นยังไง แม่ปุ้ยก็บอกว่าความจริงก็คือความจริง แล้วก็ให้เป๊ปปี้มาไลฟ์ขอโทษทุกคนอย่างที่ได้ยินกันไป
ซึ่งแม่ปุ้ยก็บอกไปว่า มันไม่แฟร์กับทุกคนที่เราเพิ่งจะมาบอกก่อนรอบพรีลิมฯ เค้าก็น่ารักยอมรับหมด แล้วก็ขอโทษขอโพยอย่างที่ได้เห็นกันไป ถามว่าจะเป็นบทเรียนสำหรับปีหน้ามั้ย มันก็ไม่ได้เป็นบทเรียน แต่จะเป็นเหตุการณ์ๆ หนึ่งที่เราต้องตั้งสติและแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำทันที คือให้พูดความจริงกับทุกคน
อย่างเมื่อวานแม่ปุ้ยก็อ่านคอมเมนต์ ซึ่งหลายคนก็สงสารเป๊ปปี้ คือสงสารเพราะเค้าร้องไห้ แต่จริงๆ เค้าไม่ได้ไปอะไรไม่ดีเลยนะ นี่คือทางเลือกที่เค้าแฮปปี้มีความสุขกว่า แม่ปุ้ยว่าคนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่เลี้ยงและทีมของเค้า พี่เลี้ยงนี้คือไปกู้เงินมาเลยนะ เพื่อจะเอามาทำโน่นนี่นั่นให้น้อง และทีมหลังบ้านอีกกว่า 10 ชีวิต และแฟนคลับที่มานั่งเฝ้าที่โรงแรม ซื้อขนมมาให้ด้วยความรักส่งพลังให้น้อง อันนี้แม่ปุ้ยว่าน่าสงสาร แล้วน้องก็มีความสุขในการที่จะตัดสินใจแบบนี้
แล้ววันที่จะขึ้นโชว์ในรอบพรีลิมมินารีในวันนี้ แม่ปุ้ยก็บอกให้ทำให้เต็มที่ เพราะจะได้โชว์ชุดที่คนทุ่มเทกำลังใจและกำลังเงินทำให้ ส่วนวันไฟนอล โอเพนนิ่งน้องคงจะไม่ขึ้นโชว์แน่ เพราะว่าน้องไม่ได้ซ้อม น้องบอกว่าเจ็บขา ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไม่ได้ซ้อมเลย ก็คิดว่าอยากให้สังคมมองทุกอย่างในมุมบวก เค้าไม่ได้โกง เพียงแต่ว่าเค้าผิดพลาดในการสื่อสาร ในการรู้ใจตัวเองช้าไปนิดหนึ่ง ซึ่งมันไม่เป็นธรรมกับคนอื่นๆ แต่ว่าน้องก็นิสัยน่ารักดี และการอนุญาตให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปเรียนและการปรับคนๆ หนึ่ง ก็ไม่ทำให้ TPN รวยขึ้นมา เราคิดว่าสังคมอยู่กันได้ด้วยความเข้าใจกัน และให้อภัยกัน จะเป็นสังคมที่น่าอยู่ที่สุด คิดอย่างนี้ค่ะ